มีความเชื่อมาตั้งแต่นมนานกาเลมาแล้วว่าถ้าในตกห้ามล้างรถเด็ดขาด เพราะถึงล้างไปเดี๋ยวก็สกปรกอีก ที่สำคัญเปลืองเงินเพราะค่าล้างรถครั้งหนึ่งก็ร้อย สองร้อย เป็นอย่างน้อย คิดแล้วก็เสียดายเงิน

Name:  11-c569.jpg
Views: 481
Size:  34.7 KB

ฝนตกห้ามล้างรถ เป็นความเชื่อที่ผิดหรือถูก

ช่วงนี้อากาศก็ช่างเปลี่ยนแปลงบ่อยซะเหลือเกิน ใน 1 วัน มีทั้งแดดและฝน และยิ่งช่วงฝนตกปัญหาเกี่ยวกับรถก็มีตามมามากมาย ไม่ว่าจะ เครื่องยนต์ เบรก และที่มองข้ามไม่ได้ก็คือสภาพภายนอกอย่างสีรถนั้นเอง แต่ก็มีความเชื่อมาตั้งแต่นมนานกาเลมาแล้วว่าถ้า ฝนตก ห้าม ล้างรถ เด็ดขาด เพราะถึงล้างไปเดี๋ยวก็สกปรกอีก ที่สำคัญเปลืองเงินเพราะค่าล้างรถครั้งหนึ่งก็ร้อย สองร้อย เป็นอย่างน้อย คิดแล้วก็เสียดายเงิน

แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วความคิดนี้ผิดอย่างมาก เพราะถ้ารถที่ผ่านสมรภูมิฝนที่ไม่ใช้จะมีแค่น้ำฝนเพียงอย่างเดียว ยังมีฝุ่นละออง และมลพิษอีกมากมายที่เกาะติดรถของคุณมา ถ้าไม่ล้างทำความสะอาดออกก็จะเป็นสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บน สีรถ และยิ่งนานวันยิ่งมากขึ้นทวีคูณสุดท้ายก็จะเป็นการส่งผลเสียและเป็นการทำลายสีรถของคุณเพราะความเสียดายเงินโดยใช่เหตุ

จริงๆ แล้วการล้างรถช่วงหน้าฝนก็ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมากมาย เพียงแค่ทุกครั้งที่ลุยฝนมาก็ให้ใช้น้ำฉีดเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกทั้งหลายออกให้หมด และใช้ผ้าแห้งที่มีผิวสัมผัสนุ่มๆ เช็ดคราบน้ำออกให้หมด แต่ห้ามใช้ผ้าเช็ดรถทันทีโดยที่ไม่ได้ฉีดน้ำชะล้างสิ่งสกปรกออก เพราะอาจจะมีฝุ่นละอองเศษดินเศษทรายติดอยู่จนทำให้เกิดร่องรอยจารึกได้ และก็อย่าขี้เกียจถึงขนาดจอดรถทิ้งไว้ทุกครั้งที่ลุยฝน เพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำบนสีรถจนอาจจะทำให้สีหมองลงได้

และถ้าพอมีเวลาก็แนะนำให้ ขัดเคลือบสีรถ บ้าง เพราะการขัดเคลือบสีรถจะทำให้น้ำไม่เกาะตัวรถและไม่ทำให้เป็นคราบน้ำอีกด้วย

ลองเปลี่ยนทัศนะคติและความคิดดูใหม่นะคะ ลบล้างความคิดที่ว่าฝนตกห้ามล้างรถเพราะล้างแล้วก็สกปรกหรือล้างแล้วเปลืองเงินไม่ล้างจะดีกว่า ระวังนะคะจะต้องเสียเงินเพื่อทำสีรถใหม่มากกว่าค่าล้างรถ

ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...80505120315067