ปวดหลังตอนขับรถไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลย Khaorot จึงอาสารวบรวมวิธีแก้อาการปวดหลังเวลาขับรถ นั่งอย่างไรไม่ให้ปวดหลังเวลาขับรถมาให้แล้ว!

อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่ไม่ควรชะล่าใจ โดยเฉพาะคนที่ขับรถเป็นเวลานาน หรืออยู่ในการจราจรติดขัดเป็นประจำ จะมีความเสี่ยงที่จะปวดกล้ามเนื้อส่วนสะโพกมากกว่าคนปกติถึงสองเท่า หากปวดหลังตอนขับรถ มาทางนี้เลย! เรารวบรวมวิธีปรับท่านั่งตอนขับรถเดินทางไกล ไม่ให้ปวดหลังมาให้คุณดูไว้เป็นแนวทางแก้ไขแล้ว

Name:  3-431e-ea2c.jpg
Views: 419
Size:  85.3 KB

1. ปรับ-เลื่อนเบาะให้นั่งขับอย่างสบาย ๆ

ปรับระยะห่างของเบาะนั่งให้พอดี โดยไม่ควรให้ห่างเกินไปจนเท้าเหยียบเบรกไม่ถึง หรือใกล้เกินไปจนต้องยกไหล่ เกร็งคอเวลาขับรถ เพื่อให้เหยียบคันเร่งและเบรกได้สะดวก

2. ปรับที่นั่งให้มองเห็นอย่างพอดี

ระดับความสูง-ต่ำของที่นั่ง นับว่าสำคัญ โดยต้องปรับให้พอดีกับระดับสายตา สูงเกินไปจะมองลำบาก แต่ถ้าต่ำเกินไป จะส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้ เราขอแนะนำว่า ควรปรับให้ความสูงของศีรษะอยู่ห่างจากเพดานประมาณหนึ่งกำปั้น มุมนี้จะทำให้มองเห็นทัศนวิสัยด้านหน้าอย่างพอดี ไม่ปวดหลัง

Name:  6-c703-69f8.jpg
Views: 465
Size:  92.0 KB

3. จับพวงมาลัยให้ถูกต้อง

การจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง คือ ควรจับในตำแหน่ง 3 หรือ 9 นาฬิกา เพื่อให้วางข้อศอกตรงที่พักแขนข้างลำตัวได้ ลดการเกร็งต้นแขน นอกจากนี้ ยังทำให้หมุนพวงมาลัยได้ถนัดอีกด้วย

4. ปรับหมอนรองศีรษะให้พอดี

ก่อนขับรถ อย่าลืมปรับหมอนรองคอให้พอดีกับศีรษะ เพื่อลดอาการปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ ไม่ให้ลามไปยังหลัง ยิ่งเวลาเกิดอุบัติเหตุ หมอนรองศีรษะจะรองรับแรงกระแทก ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกระดูดต้นคอได้อย่างดี

5. ปรับความเอียงของเบาะ

การปรับความลาดเอียงของที่นั่ง ให้ต้นขาสัมผัสกับเบาะรถทุกส่วน โดยต้องไม่ให้มีแรงกดที่ด้านหลังของเข่ามากไป จะทำให้นั่งขับได้อย่างสบาย แถมลดอาการปวดเมื่อยได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

6. จัดท่านั่งให้ถูกต้อง

ท่านั่งที่ดีควรนั่งพิงลงไปให้เต็มเบาะ และต้องให้เข่าอยู่ในระดับสูงกว่าสะโพกเล็กน้อย หัวตั้งตรง เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังตั้งตรงพอดี โดยอาจจะใช้หมอนรองนั่งมารองบริเวณส่วนล่างเอาไว้ เพื่อลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งตรง

อย่างไรก็ตาม หากเมื่อยล้าจนเกินไป หรือไม่ไหวจริง ๆ ให้จอดรถพักผ่อนคลายแล้วค่อยเดินทางต่อจะดีกว่า นอกจากจะลดอาการปวดหลังตอนขับรถได้แล้ว ยังลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย

ที่มา : https://khaorot.com/drive-safely/%E0...00214102040829