กลายเป็นคำถามคาใจสำหรับการจอดรถภายนอกตัวอาคารแล้วต้องยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นมีความจำเป็นหรือไม่แล้วมีผลดีอย่างไร

นับเป็นค่านิยมที่มีการปฎิบัติกันมาอย่างยาวนานสำหรับการจอดรถไว้ท่ามกลางแสงแดดจัดจะต้องทำการยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นเพื่อช่วยยืดอายุในการใช้งานที่ปัดน้ำฝน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อผู้ขับขี่นำรถไปจอดเอาไว้ท่ามกลางแสงแดดจัดกระจกหน้ารถจะมีการสะสมความร้อนเอาไว้เป็นจำนวนมากส่งผลให้ยางปัดน้ำฝนที่มีการติดตั้งเอาไว้กับก้านปัดน้ำฝนสัมผัสกับความร้อนจากกระจกรถโดยตรงแล้วทำให้ยางปัดน้ำฝนเกิดการสึกกร่อนมีอายุการใช้งานที่สั้นลงเนื่องจากยางปัดน้ำฝนจะกระด้างจนรีดน้ำฝนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

Name:  1-e4f3.jpg
Views: 28
Size:  44.8 KB

อย่างไรก็ตามการจอดรถโดยยกใบปัดน้ำฝนขึ้นแม้จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของยางปัดน้ำฝนให้ช้าลงไปแต่ตามปกติแล้วยางปัดน้ำฝนเมื่อมีการใช้งานไปได้ระยะหนึ่งจะเกิดการเสื่อมสภาพลงเนื่องจากรังสียูวีของแสงแดดนั่นเอง เพราะฉะนั้นการยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นก็ไม่ได้ช่วยให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพช้าลงไปเท่าไรนัก กอปรกับการที่ผู้ขับขี่มีการยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นยังส่งผลให้สปริงที่อยู่ภายในก้านปัดน้ำฝนมีการยืดตัวมากกว่าปกติ เมื่อผู้ขับขี่เปิดใช้งานระบบปัดน้ำฝนในรถยนต์ใบปัดน้ำฝนจะไม่สามารถรีดน้ำบนกระจกได้แนบสนิทกับกระจกรถเพราะสปริงมีอาการโก่งตัวทำให้ปัดน้ำได้ไม่หมด หรือ เหลือทิ้งคราบสกปรกเอาไว้บนกระจกหน้านั่นเอง

สำหรับวิธีการช่วยยืดอายุการใช้งานของใบปัดน้ำฝนอย่างถูกต้องนั้นก็ไม่ได้มีวิธีที่ซับซ้อนมากนักเพียงแค่เปิดใช้งานที่ปัดน้ำฝนรวมถึงน้ำยาฉีดกระจกอยู่เป็นประจำเพราะจะช่วยเพิ่มความสะอาดให้กับกระจกอีกทั้งยังทำให้ยางปัดน้ำฝนมีการสัมผัสกับน้ำทำให้ยางปัดน้ำฝนไม่กระด้าง พร้อมด้วยการตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝนอยู่เป็นประจำอย่างน้อยในทุกๆ 6 เดือน ผสานกับการหลีกเลี่ยงที่จะจอดรถในบริเวณที่มีแสงแดดจัดและไม่ควรที่จะยกใบปัดน้ำฝนขึ้นเนื่องจากจะทำให้ใบปัดน้ำฝนรวมถึงสปริงมีการชำรุดได้ง่ายนั่นเอง

หรือผู้ขับขี่สามารถที่จะเปลี่ยนมาใช้วิธีการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนในทุกๆ 1 ปี เพื่อที่จะช่วยให้ใบปัดน้ำฝนสามารถที่จะทำการรีดน้ำฝนบนกระจกรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนขึ้นบนกระจกหน้ารถอันมีเหตุสืบเนื่องมาจากใบปัดน้ำฝนปัดสิ่งสกปรกออกไปได้ไม่หมดจนส่งผลให้คราบฝุ่นผงเกาะตัวอยู่เป็นจำนวนมาก และควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างรถมาเช็ดใบปัดน้ำฝนเนื่องจากน้ำยาล้างรถมีฤทธิ์กัดกร่อนซึ่งจะทำให้ยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งยังเสี่ยงต่อการที่จะทำให้ก้านที่ปัดน้ำฝนขึ้นสนิมได้อีกด้วย

นอกจากนี้แล้วเทคนิคในการดูแลที่ปัดน้ำฝนอีกประการหนึ่ง คือ ในระหว่างการล้างรถผู้ขับขี่ควรที่จะยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ก้านปัดน้ำฝนสัมผัสกับน้ำยาล้างรถโดยตรงก่อนทำการเช็ดล้างด้วยน้ำสะอาดซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของก้านปัดน้ำฝนให้ยาวนานมากยิ่งขึ้นและไม่ต้องทำการเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนอย่างบ่อยครั้งนั่นเอง

ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...90520072011587