คราบน้ำฝน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สีรถซีด และหมองเร็วกว่าเดิม หากไม่อยากให้สีรถพังไวขึ้น เรามีวิธีดูแลสีรถยนต์ในช่วงหน้าฝนที่สามารถทำได้ง่าย ๆ มาฝากกัน!

ในช่วงหน้าฝน เราต้องดูแลรถเป็นพิเศษ หลังขับรถลุยฝน อย่าปล่อยให้มีคราบน้ำหรือรอยเปื้อนดินโคลนเกาะติด เพราะอาจทำลายชั้นเคลือบผิวไปจนถึงสีรถได้ นอกจากนี้ ฝนที่ตกในเมืองยังมักเป็นฝนกรด (ฝนที่เกิดจากมลพิษ) หากปล่อยทิ้งไว้คราบเหล่านั้นอาจกัดสีรถให้ซีดเร็วขึ้น เราจึงมีวิธีดูแลสีรถยนต์ในช่วงหน้าฝนที่ทำได้ง่าย ๆ มาฝากกัน

Name:  person-riding-a-bicycle-during-rainy-day-763398-6e4d.jpg
Views: 203
Size:  94.6 KB

วิธีดูแลสีรถยนต์ในช่วงหน้าฝน

ล้างคราบน้ำฝนออกทุกครั้ง

อย่างที่บอกว่าฝนกรด เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำลายชั้นผิวและสีรถของคุณ ดังนั้น หลังขับรถลุยฝน ควรใช้น้ำสะอาดฉีดล้างคราบน้ำฝน รวมถึงรอยเปื้อนดินโคลนออกทุกครั้ง อย่าละเลยปล่อยทิ้งไว้ เพราะนอกจากสีรถจะถูกทำลายแล้ว คราบอาจฝังลึกจนล้างไม่ออกอีกด้วย

ไม่ควรใช้ผ้าแห้งเช็ดรถ

คราบน้ำฝนและคราบสกปรก หากไม่ฉีดล้างทำความสะอาดก่อน แต่ใช้ผ้าแห้งเช็ดออกเลย จะทำให้เกิดรอยขีดข่วน หรือรอยขนแมวได้

รถตากฝน ไม่ควรนำไปตากแดด

หลังขับรถตากฝน ไม่ควรนำไปตากแดด โดยที่ไม่ได้ล้างและเช็ดออกก่อน เพราะจะทำให้คราบน้ำฝน และรอยเปื้อนดินโคลนแห้งเป็นกรัง และเกิดคราบฝังแน่น จนไปกัดสีผิวรถให้หมองได้

เคลือบสีรถ เดือนละครั้ง ช่วยได้

การเคลือบสีรถ นอกจากจะทำให้รถมีความเงางาม สีไม่หมอง เหมือนรถใหม่อยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังช่วยป้องกันฝนกรด หรือคราบน้ำฝนที่อาจทำลายผิวรถได้อีกด้วย

สำหรับวิธีดูแลสีรถช่วงหน้าฝน แม้จะดูจุกจิก หรือเสียเวลาที่ต้องล้างบ่อย ๆ แต่ก็ช่วยสภาพผิวไม่ให้ถูกทำลาย และช่วยรักษาสีรถของคุณไม่ให้หมองเร็วเกินไปได้

ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...00528105644543