เสียงรบกวนในห้องโดยสารขณะขับรถ แน่นอนว่ามีส่วนทำให้หลายคนเสียสมาธิได้ง่าย แล้วเราจะจัดการอย่างไรดี วันนี้ Khaorot.com เรามีเคล็ดลับมาเสนอ

รถยนต์ทุกรุ่นต่างก็มีปัญหา "เสียงรบกวนจากภายนอก " เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสาร ซึ่งอาจเกิดจากเสียงเครื่องยนต์ เสียงลมปะทะ หรือเสียงการจราจรภายนอก แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความใส่ใจและการออกแบบของแต่ละรุ่น โดยสังเกตุได้ง่ายๆจากรถยุโรประดับไฮเอนที่แทบจะไม่มีใครคอมเพลนเกี่ยวกับเรื่องเสียงรบกวนเลย โดยเฉพาะ Mercedes S-Class ที่ยอมกันว่าเป็นรถยนต์ที่เงียบที่สุด ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ผู้ผลิตสามารถยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจ แต่สำหรับรถที่คนทั่วไปเอื้อมถึงนั้น ส่วนมากมักจะมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นเนื่องจากหลายค่ายเน้นประโคมแข่งขันกันจากแรงม้า ออพชั่นเสริม และระบบความปลอดภัย จึงละเลยเรื่องเสียงรบกวนกันไป ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับสำหรับจัดการลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารมาฝากกัน

Name:  noisy2-d317.jpg
Views: 204
Size:  33.4 KB

1. เช็คยางขอบประตู
สำหรับรถที่ใช้งานเป็นระยะเวลานานแล้วมีเสียงในห้องโดยสารดังขึ้นกว่าเดิม อาจเกิดจากยางขอบประตู ขอบหน้าต่างเสื่อมสภาพ ให้ตรวจดูว่ายางมีลักษณะแข็ง แตกลายหรือไม่ และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมไหม เพราะบางทีการเปิด-ปิดประตูหลายครั้งจะทำให้ขอบยางพลิกและเลื่อนได้ หากตรวจพบให้เปลี่ยนขอบยางใหม่ เสียงจะเงียบลง

2. พ่นซุ้มล้อด้านใน
การพ่นซุ้มล้อก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่หลายคนนิยมทำเพื่อลดเสียงรบกวน ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่แพงประมาณ 300-400 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อสเปรย์ที่ใช้พ่น แต่ถ้าเป็นรถที่มีช่วงล่างแข็งหรือยกสูง วิธีนี้อาจไม่มีผลมากนัก

3. บุแผ่นเก็บเสียง
ในรถหรูราคาแพงส่วนใหญ่จะมีการบุแผ่นช่วยลดเสียงภายนอกมาให้ แต่สำหรับรถทั่วไปเราสามารถติดตั้งเพิ่มได้ตามร้านที่รับบริการด้านนอก ซึ่งการบุแผ่นกันเสียงนี้จะต้องรื้ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น เบาะ เพดาน ออกก่อนแล้วค่อยประกอบเข้าไปใหม่ สำหรับค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ตั้ง 10,000 บาทไปจนถึงหลายหมื่น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รถที่ภายในเงียบสบายหู ไม่มีเสียงรบกวนสมาธิขณะขับขี่อีกต่อไป ทั้งนี้ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของเสียงด้วยว่ามาจากไหน หากเกิดจากล้อ แอร์ หรือเครื่องยนต์ที่ผิดปกติ ให้แก้ไขตรงจุดก่อน และที่สำคัญถ้าภายในรถเงียบเกินไปจะทำให้ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน หรือเสียงความผิดปกติอื่นๆที่ต้องระวังขณะขับขี่ได้ ทางที่ดีเดินสายกลางลดเสียงให้อยู่ในระดับไม่รบกวนสมาธิมากเกินไปน่าจะเพียงพอครับ

ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...80712151805050