กลิ่นรถยนต์ สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรละเลย รถยนต์โดยทั่วไป อาจมีกลิ่นวัสดุหนังหรือกลิ่นอาหารเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่แปลก แต่มีกลิ่นบางประเภทซึ่งต้องระวังให้ดี

Name:  car-smell3-9565.jpg
Views: 147
Size:  25.9 KB

เมื่อกล่าวถึง "กลิ่นรถยนต์ " หลายคนอาจนึกถึงกลิ่นวัสดุหนัง พลาสติกในรถใหม่ กลิ่นอาหารหรือการระบายอากาศไม่ดี แต่กลิ่นที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ มีลักษณะพิเศษคือ สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความบกพร่องของระบบการทำงานในรถยนต์ได้ โดยจำแนกได้ดังนี้

1. กลิ่นคล้ายผ้าโดนไฟเผา

หากกำลังขับรถอยู่ แล้วได้กลิ่นเหมือนกับไฟไหม้ผ้าลอยเข้าจมูก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าระบบเบรก หรือผ้าเบรกของรถคุณกำลังมีปัญหาแล้ว ให้หาช่างที่ไว้ใจตรวจเช็คโดยด่วน หากปล่อยไว้มีโอกาสเบรกแตกได้

2. กลิ่นไข่เน่า

หลายคนสงสัย รถจะมีกลิ่นไข่เน่าได้อย่างไร แต่มีจริงครับ ไม่ใช่เพราะเราซื้อไข่แล้วลืมทิ้งไว้ในรถ แต่เกิดจากระบบฟอกไอเสียของรถที่กำลังทำงานหนักเกินไป ต้องใช้ช่างเช็คดูแล้วครับ

3. กลิ่นหวานเหมือนน้ำเชื่อม

กลิ่นนี้จะออกหวานๆ (อย่าคิดว่าเป็นกลิ่นลูกอมหรือหมากฝรั่ง) ถ้าได้กลิ่นแบบนี้ ต้องสงสัยไว้ก่อนเลยว่าถังพักน้ำหล่อเย็นในระบบทำความเย็นรถอาจรั่ว ให้ทำความสะอาดท่อพักก่อนที่มดหรือหนูจะมาร่วมสังเกตุการณ์กลิ่นกับเราด้วย หลังจากนั้นค่อยนัดพบช่างครับ

4. กลิ่นยางไหม้

กลิ่นที่เหมือนกับยางถูกเผาไหม้ มักมาจากชิ้นส่วนที่ทำจากยางเป็นหลัก เช่น สะพานเลื่อน ท่อลมยางหลวม หรือแม้กระทั่งถุงพลาสติกปลิวไปติดอยู่ใต้เครื่องแล้วสัมผัสกับความร้อนที่เครื่องยนต์ก็เป็นได้ แนวทางแก้ไขเบื้องต้นให้สำรวจถุงพลาสติกที่เครื่องยนต์ก่อน หากไม่มีค่อยนำรถเข้าอู่ให้ช่างช่วยตรวจสอบอีกแรง

5. กลิ่นน้ำมันเบนซิน

กลิ่นนี้จะแรงเหมือนกับตอนเติมน้ำมันที่ปั๊มเลยทีเดียว สาเหตุเกิดจากน้ำมันแน่นอน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งลืมปิดฝาถังน้ำมัน ถังน้ำมันหรือท่อน้ำมันรั่ว สายยางรั่ว ระบบหัวฉีดหรือถังดักน้ำมันมีปัญหา แรกกูเลเตอร์เสื่อม เป็นต้น

Name:  car-smell5-5183.jpg
Views: 164
Size:  30.2 KB

6. กลิ่นน้ำมันถูกเผา

จะมีลักษณะเหม็นไหม้น้ำมันอ่อนๆ กลิ่นไม่แรงมาก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น น้ำมันเครื่องหมดสภาพ ถังน้ำมันเครื่องรั่วซึม เครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไป เกจวัดความร้อนพัง หรือเกิดจากความผิดปกติของเครื่องปรับสุญญากาศก็เป็นได้ ให้รีบนำรถเข้าอู่เพื่อหาสาเหตุโดยด่วน

7. กลิ่นเหม็นอับ

กลิ่นนี้คล้ายกับกลิ่นอับของเสื้อผ้าที่ซักตากไว้แล้วไม่แห้ง ซึ่งเกิดจากเชื้อราเป็นสาเหตุหลัก ให้สำรวจพรมรองเท้า เบาะนั่ง ผนังบุภายในรถ ทุกชิ้นส่วนที่สามารถก่อให้เกิดราได้ เมื่อพบให้รีบทำความสะอาด เพราะราเหล่านี้จะเข้าไปในระบบหายใจทำลายสุขภาพของผู้โดยสาร นอกจากนี้ในคอยล์แอร์ก็มีราเกิดขึ้นจากความชื้นได้เช่นกัน ทางแก้คือให้ปิดแอร์แล้วเปิดพัดลมเบอร์แรงสุด พร้อมทั้งเปิดประตูทั้งหมดออกเพื่อระบายอากาศ

8. กลิ่นคล้ายขนมปังไหม้

หลายคนคงคุ้นเคยกับขนมปังปิ้งเป็นอย่างดี แต่เมื่อไหร่ที่มีกลิ่นขนมปังไหม้บนรถ ให้พึงระวังว่าสายไฟต่างๆอาจกำลังช็อตอยู่ ควรรีบให้ช่างเช็คด่วนครับ

9. กลิ่นเหมือนผมไหม้

หากได้กลิ่นนี้ขึ้นมา ให้เปิดกระโปรงรถตรวจดูได้เลยว่ามีหนู หรือแมลงกำลังสร้างบ้านในรถคุณอยู่หรือเปล่า หากพบให้รีบหาวิธีกำจัดหรือพ่นยาป้องกัน และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอเพราะสัตว์เล็กหรือแมลงสามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบรถยนต์ได้ไม่น้อยทีเดียว

10. กลิ่นท่อไอเสียจากลิ้นชักคอนโซล

เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้กลิ่นท่อไอเสียออกมาจากลิ้นชักคอนโซลแล้วละก็ อย่ามัวรีรอ ให้รีบตามช่างหรือนำรถเข้าอู่โดยด่วนเพราะท่อไอเสียเป็นอันตรายทั้งต่อตัวรถและผู้ขับเองอย่างมาก

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว อย่าลืมสังเกตุกลิ่นต่างๆในรถยนต์กันด้วยนะครับ ว่าเป็นแบบธรรมาดา หรือเข้าข่ายข้อใดบ้าง จะได้หาวิธีแก้ไขก่อเกิดเหตุไม่คาดฝันครับ

ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...80802214352487