พวงมาลัยรถยนต์ถือเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของรถเลยก็ว่าได้ เพราะถือเป็นหัวใจหลักที่ใช้ควบคุมรถให้เป็นไปตามที่ใจต้องการนั่นเอง

สำหรับพวงมาลัยรถยนต์นั้น โดยหลักๆแล้ว จะทำหน้าที่ควบคุมรถยนต์ให้เป็นไปตามทิศทางที่เราต้องการ ดังนั้น หากเกิดปัญหากับพวงมาลัยขึ้นมาแล้ว นั่นหมายถึงอันตรายที่จะต้องตามมาด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ มักเกิดปัญหาที่พวงมาลัยหนัก และมักพบได้กับรถยนต์ทุกรุ่นทุกแบรนด์ แต่จะเป็นเพียงบางคันเท่านั้นที่มักจะพบเจอกับปัญหาดังกล่าว แล้วสาเหตุที่ทำให้พวงมาลัยหนักนั้นมีอะไรบ้าง ? โดยส่วนมากแล้วจะเกิดจากสาเหตุเหล่านี้



- แรงดันลมยางต่ำกว่าค่ามาตรฐาน ส่งผลให้ยางรถยนต์แนบกับพื้นถนนมากขึ้น จึงเกิดความฝืดในการขับเคลื่อนตามมา การบังคับพวงมาลัยจึงดูหนักมากขึ้น
- การตั้งศูนย์ล้อที่ไม่ได้ค่าตามมาตรฐาน การเลี้ยวจะทำได้ยากมากขึ้น การรั้งพวงมาลัยให้แล่นตรงศูนย์จึงฝืดมากขึ้นตามไปด้วย ผู้ขับจึงคิดว่าพวงมาลัยหนักมากกว่าปกติ
- การใช้ยางที่มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานของรถ การที่หน้ายางสัมผัสพื้นถนนมากกว่าปกตินั้น จะทำให้การบังคับพวงมาลัยต้องใช้แรงเยอะมากขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้ดูเหมือนว่าพวงมาลัยมีความหนักตามไปด้วยนั่นเอง
- ปริมาณน้ำมันของพวงมาลัยพาวเวอร์ขาดหรือรั่วไหลออกมา จึงทำให้เกิดการขัดข้องที่ระบบภายใน การบังคับพวงมาลัยจึงทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
- ปั๊มเพาเวอร์ไฟฟ้าเกิดบกพร่อง จึงทำให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพตามปกติ ส่งผลให้พวงมาลัยบังคับได้ยากมากขึ้นตามไปด้วย
- เฟืองบังคับเลี้ยวแห้ง อันเนื่องจากขาดสารที่ใช้หล่อลื่น ส่งผลให้การบังคับพวงมาลัยดูหนักมากขึ้น ซึ่งหากเฟืองบังคับเลี้ยวแห้งหรือฝืดมากขึ้น ก็จะส่งผลต่อการบังคับพวงมาลัยโดยตรง
- สายพานหย่อน ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนรถที่ระบบภายใน
- ข้อต่ออ่อนของแกนพวงมาลัยชำรุด ซึ่งในจุดนี้ถือเป็นอะไหล่ที่ช่วยเรื่องการบังคับเลี้ยว หากข้อต่อแกนพวงมาลัยชำรุดหรือผิดปกติจะต้องรีบแก้ไขและซ่อมโดยเร็ว โดยส่วนมากจะต้องเปลี่ยนทันที
- กระปุกพวงมาลัยมีความฝืด อันเนื่องมาจากการรั่วไหลของน้ำมันหล่อลื่น จึงทำให้พวงมาลัยมีความฝืดตามไปด้วยนั่นเอง

สรุป

สำหรับปัญหาพวงมาลัยหนักนั้น บางครั้งมักเกิดจากการใช้งานโดยตรง หรือบางครั้งอาจจะเกิดจากการประกอบจากทางโรงงาน ดังเช่นที่มีผู้ใช้งานออกมารีวิวถึงปัญหาพวงมาลัยรถที่หนักมากกว่าที่เคยใช้รุ่นอื่นๆมา ทั้งที่พึ่งซื้อรถมาใช้ได้ไม่นาน อย่างไรก็ตาม หากสาเหตุมาจากการใช้งานแล้ว สามารถแก้ไขได้โดยการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ เพื่อตรวจสอบดูว่าสาเหตุเกิดมาจากส่วนใดนั่นเอง

ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...81023124323639