‘’ใช่ ผมหวังเอาไว้เต็มที่เลยว่า สักวัน ผมต้องมีเพลงติดท็อปชาร์ตในนอร์เวย์” ถ้าอ่านผ่าน ๆ คำตอบนี้ เหมือนมาจากนักร้องนักดนตรี แต่ไม่ใช่ เพราะคนที่พูดประโยคนี้ออกมานั้นมีชื่อว่า ‘เออร์ลิง ฮาแลนด์’

โดยนี่เป็นส่วนหนึ่งของคำถามระหว่างการพูดคุยกับสุดยอดกองหน้าดาวรุ่งฟอร์มระเบิดในโลกลูกหนัง ที่ต้องมาถ่ายแบบ และให้สัมภาษณ์กับสื่อฟุตบอลไลฟ์สไตล์ชื่อดังในเกาะอังกฤษ อย่าง soccerbible ซึ่งนอกจากเรื่องการตลาดแล้ว ก็ยังถือเป็นการเปิดใจครั้งสำคัญแบบยาวเหยียดชนิดที่ไม่ค่อยมีให้เห็น ด้วยความเป็นคนขี้อาย, แอบมีความอนุรักษ์นิยม (หัวโบราณ) และพูดน้อยของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เอง

แต่ในเมื่อได้โอกาสทั้งที คำถามหลายคำถามที่เคยถูกอั้นไว้ ก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ในงานนี้

เช่น ถ้าดูจากคลิปวิดีโอเพลงแร็พของเขาตอนอายุ 15 ปี เส้นทางดนตรี คืออีกหนทางที่ฝันไว้ใช่ไหม? เรื่องนี้ เขาก็ให้ตอบแบบชัดเจนว่า “ใช่ ผมอยากเป็นนักร้องเพลงแร็พ ต้องบอกด้วยความสัตย์จริงเลย”

เมื่อโดนถามต่อว่า แล้วทุกวันนี้ล่ะ? ยังอยากเป็นแร็พเปอร์อยู่ไหม? หรือกำลังรอโอกาสนั้นอยู่ คำตอบส่วนนี้ อยู่บนบรรทัดแรกสุดที่ว่า เขาไม่เคยหยุดคิดเรื่องนี้ และเพลงของเขาต้องดังในนอร์เวย์ เขายอมรับว่า แม้ชอบฟังดนตรีหลายแนว เช่น คลาสสิก แต่สุดท้ายก็เลือกแนวเดียวที่ชอบที่สุด “บางที ผมต้องฟังเพลงแร็พมากขึ้น เพื่อให้เข้าใจมันมากกว่าเดิม เพื่ออนาคต... (ในวงการดนตรีแร็พ)”

ส่วนเรื่องชื่อวง เขาบอกว่า อยู่ในคลิปวิดีโอ คือ ‘โฟลว คิงส์’ (Flow Kings) / ฉายาเขาคือ ลิง (Ling) โดยเขาขอชี้แจงว่า อันที่จริง เขาเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เพียงแต่มีจังหวะของฟุตบอลเข้ามาก่อน และในคำถามหมวดอาชีพปัจจุบันนี้ ก็มีทั้งเรื่องนอกสนาม และสนามที่หลายคนเองก็อยากรู้เหมือนกัน เช่น จากการที่เขาเกิดในเมือง ลีดส์ มีโอกาสแค่ไหน? ถ้าอยากให้เขาเลือกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ

“ผมไม่เอาด้วยนะ ผมย้ายกลับนอร์เวย์ ตั้งแต่ 4 ขวบ ผมเป็นคนนอร์เวย์ ผมภูมิใจในความเป็นนอร์เวย์”

คุณได้เรียนรู้อะไรเป็นพิเศษไหม? จากการทำงานกับโค้ชอย่าง ‘โอเล่ กุนนาร์ โซลชา’ อยู่ช่วงหนึ่ง “ผมได้เรียนรู้การทำตัวเองให้พร้อม, ดุดัน, เฉียบขาด แล้วต้องยิงให้ได้ นั่นคือ บางส่วนที่เขาสอนผม”

พ่อคุณ (อัล์ฟ-อิงเก้ ฮาแลนด์) เป็นอดีตนักเตะกองกลางตัวรับ แล้วเขาสอนคุณที่เป็นกองหน้ายังไง? “พ่อผมเคยต้องรับมือนักเตะระดับท็อปมาหลายคน เขารู้ว่า การเป็นกองหน้าที่ดีควรต้องทำยังไงบ้าง

และเขาได้บอกผมเกี่ยวกับสิ่งเลวร้ายสุดที่เขาเคยพบเจอมา เขาสอนผมมากมายหลายอย่างเลยล่ะ”

และเมื่อพูดถึงความมั่นใจ ในการก้าวออกมาสร้างชื่อด้วยตัวเอง แทนที่ชื่อเสียงจากพ่อ เขาอธิบายว่า “คนอื่นอาจจะมองแบบนั้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจ เพราะผมภูมิใจที่เป็นลูกชายนักฟุตบอลคนหนึ่ง”

การได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมพลังหนุ่ม อย่าง ดอร์ทมุนด์ นั้น มีผลกับคุณแค่ไหน ตอนตัดสินใจมาที่นี่? “แนวทางทั่วไปในการพัฒนานักเตะดาวรุ่งของทีมในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เย้ายวนใจผมได้”

คู่หูอย่าง ‘จาดอน ซานโช่’ ล่ะ? “เราเข้าใจกันดีตั้งแต่วินาทีแรก ‘จาดอน’ เขาเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์” แล้วถ้าวันหนึ่งต้องย้ายไปทีม จะรู้สึกกดดันแค่ไหน? เขาตอบว่า “ผมจะพยายามไม่คิดถึงเรื่องนี้ มันมีความกดดันอยู่แล้ว อย่าง ‘ดอร์ทมุนด์’ ก็เป็นทีมใหญ่ ‘ความกดดัน’ เป็นสิ่งที่ต้องอยู่กับมันให้ได้”

คุณมีสัญชาตญาณกองหน้า หรือว่า ฝึกซ้อมมาดี? “ผมฝึกซ้อมมาตลอด และตามดูการยิงประตูของคนอื่นด้วย แต่ตัวผมก็พยายามจะเล่นให้เป็นธรรมชาติ ยิงให้เข้าประตู อะไรแบบนี้แหละ” เขาพูดถึงสไตล์ตัวเอง

แต่คุณดูโหดมาก กับการยิงไป ‘9 ประตู’ ในเกมทีมชาติชุดยู-20 กับ ฮอนดูรัส “ใช่แหละ จะว่างั้นก็ได้ ผมอาจดูโหดร้ายไปหน่อย” และเขาอธิบายต่อว่า “แต่ถ้าได้ยิงอีก ผมก็จะยิงให้เข้าอยู่ดี มันสนุกมาก”

เท่าที่ฟัง จากที่เล่ามาทั้งหมด ดูเหมือน ‘ความสนุก’ คือ เหตุผลสำคัญที่สุด ที่ทำให้คุณเล่นฟุตบอล? “ผมบอกตัวเองเสมอว่า ถ้าวันไหนที่รู้สึกว่า ฟุตบอล ‘ไม่สนุก’ อีกต่อไปแล้ว วันนั้น ผมจะหยุดเล่นเอง”

“ทุกวันนี้ ผมก็เลยอยากสนุกกับมันให้ได้มากที่สุด เหมือนเกม ฮอนดูรัส ที่ยิงได้ 9 ประตู ผมสนุกมาก”

ขณะที่คำถามปิดท้ายที่ว่า อะไรที่เราจะได้เห็นจากเขาต่อจากนี้? อะไรที่สำคัญที่เขากำลังมองหาอยู่? ‘เออร์ลิง ฮาแลนด์’ ว่าที่โคตรกองหน้า และแร็พเปอร์ในอนาคต บอกแค่ว่า “เร็ว ๆ นี้แหละ เร็ว ๆ นี้เลย”

ที่มา: https://timeout.siamsport.co.th/timeout/view/205522