เงินดอลลาร์ได้อยู่ในช่วงผสมเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในวันพฤหัสบดีตอนบ่าย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้มีการปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร แต่กลับอยู่ต่ำกว่าระดับของสกุลเงินปอนด์และสกุลเงินเยน ทางด้านธนาคารกลางหลายแห่งยังคงจับตามองดูว่าหลังจากที่ทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาได้ทำการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตามที่ได้คาดการณ์กันเอาไว้ ส่วนธนาคารกลางในยุโรปและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษยังคงใช้อัตราเดิมในช่วงวันพฤหัสบดี อ้างอิงการรายงานจากกระทรวงแรงงานที่ได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันพฤหัสบดีว่า ทางด้านเศรษฐกิจพบว่า การรับสวัสดิกาครั้งแรกของผู้ว่างงานในสหรัฐอเมริกามีการลดลงไปอย่างไม่ทันคาดการณ์ในช่วงสัปดาห์วันที่ 9 ธันวาคม ในรายงานได้แสดงให้เห็นว่า การรับสวัสดิการของผู้ว่างงานได้ลดลงไป 225,000ราย โดยลดลงไป 11,000ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่อยู่ใน 236,000ราย ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ ได้ประเมินไว้ว่าการรับสวัสดิการของผู้ว่างงานได้ปรับตัวขึ้นมา 239,000ราย กระทรวงการคลังยังออกมาเปิดเผยข้อมูลในรายงานของวันพฤหัสบดีอีกว่า ยอดการค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาได้ปรับตัวขึ้นมามากกว่าที่ได้คาดการณ์เอาไว้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ในรายงานได้ระบุไว้ว่ายอดการค้าปลีกได้ปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.8 ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในเดือนตุลาคมที่ร้อยละ 0.5 นักเศรษฐศาสตร์คาดว่ายอดการค้าปลีกน่าจะปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับการปรับตัวที่เกิดขึ้นจากการรายงานที่ผ่านมาในร้อยละ 0.2 ในเดือนที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์คาดว่ายอดการค้าปลีกน่าจะปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับการปรับตัวที่เกิดขึ้นจากการรายงานที่ผ่านมาในร้อยละ 0.2 ในเดือนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้ออกมากล่าวว่า ดัชนีราคาการนำเข้าได้ปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.7 ในช่วงเดือนพฤศจิการยน หลังจากที่ในเดือนตุลาคมได้ปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.1 ราคาการส่งออกได้ปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.5 ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ได้ขยับตัวขึ้นไปในช่วงเดือนก่อนหน้านี้ที่ร้อยละ 0.1 ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ได้ประเมินไว้ว่าราคาการส่งออกน่าจะปรับตัวขึ้นมาร้อยละ 0.2 ขณะที่ทางกระทรวงการคลังเองก็ออกมารายงานถึงการลดลงของปริมาณสินค้าทางธุรกิจในช่วงเดือนตุลาคมกระทรวงการคลังได้ระบุว่าปริมาณสินค้าเชิงธุรกิจได้ลดลงไปร้อยละ 0.1 ในเดือนตุลาคม หลังจากที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาในช่วงเดือนกันยายน สำรหับการลดลงไปเล็กน้อยของปริมาณสินค้าคงคลังนั้นตรงกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้ประเมินเอาไว้ ทางด้านธนาคารกลางแห่งยุโรปยังคงใช้จุดยืนด้านนโยบายทางการเงินเหมือนเดิมในวันพฤหัสบดี แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางธนาคารกลางยังคงปรับแนวโน้มการเติบโตของสกุลเงินยูโรขึ้นมา เนื่องจากมีความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นจากโมเมนตัมที่แข็งแรงในปีนี้ แต่อัตราเงินเฟ้อกลับยังคงอยู่ที่เดิมในเป้าหมายจนถึงปี 2020 ซึ่งคุณ Mario Draghiมองว่าเป็นข่าวที่ "เงียบเฉียบ" ที่ยืนยันถึงการสนับสนุนจากการกระตุ้นทางการเงินอย่างสูง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ดีจากประธานธนาคารกลางแห่งยุโรป ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะขยับตัวไปในเป้าที่ที่ "ต่ำกว่า" แต่เข้าใกล้ในระดับร้อยละ 2 กว่าช่วงสองเดือนที่ผ่านมา จากแนวโน้มของเศรษฐกิจมหภาค ตามที่ได้ระบุเอาไว้ในวันพฤหสับดีว่า เจ้าหน้าที่ในธนาคารกลางได้ทำการปรับแนวโน้มการเติบโตของปีนี้ไปที่ ร้อยละ 2.4 จากเดิมอยู่ในร้อยละ 2.2 แนวโน้มสำหรับปีหน้านั้นได้รับการปรับระดับขึ้นมาอย่างมากจนถึงร้อยละ 2.3 จากเดิมในร้อยละ 1.8 โดยที่แนวโน้มของปี 2019 เองก็ได้รับการปรับระดับขึ้นมาถึงร้อยละ 1.9 จากเดิมอยู่ในร้อยละ 1.7 สำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเองก็ได้ปรับตัวขึ้นมาถึง 1.1769เหรียญ เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในวันพฤหสับดี แต่ก็ยังมีการปรับตัวลดลงไปใน 1.18เหรียญ อ้างอิงข้อมูลการรายงานใหม่จากทางสถาบัน IHS Markit ที่ได้ออกมาระบุไว้ในวันพฤหสับดีว่า กิจกรรมของภาคเอกชนในยูโรโซนได้มีการขยายตัวเกิดขึ้นอย่างมากในช่วง 7 ปีภายในเดือนธันวาคม โดยที่ดัชนีรวมด้านการผลิตโดยทั่วไปได้ปรับตัวขึ้นมาในระดับสูงในรอบ 82 เดือนที่ 58.0 ในเดือนธันวาคม จากเดิมใน 57.5 ของเดือนพฤศจิกายน สำหรับดัชนีนี้มีการคาดการณ์ไว้ว่าอาจจะปรับตัวลงมา 57.2 อ้างอิงข้อมูลการรายงานใหม่จากทางสถาบัน IHS Markit ที่ได้ออกมาระบุไว้ในวันพฤหสับดีว่า กิจกรรมของภาคเอกชนในประเทศเยอรมันได้มีการขยายตัวเกิดขึ้นมาอย่างสูงในรอบ 6 ปีกว่าภายในรอบเดือนธันวาคม โดยดัชนีกรวมด้านการผลิตแรกได้ปรับตัวขึ้นมาในระดับสูงในรอบ 80 เดือนที่ 58.7 ในเดือนธันวาคม จากเดิมในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 57.3 อ้างอิงข้อมูลการรายงานใหม่จากทางสถาบัน IHS Markit ที่ได้ออกมาระบุไว้ในวันพฤหสับดีว่า ภาคเอกชนของประเทศฝรั่งเศสเองก้ยังคงรักษาระดับโมเมนตัมด้านการเติบโตไว้ได้ดีในเดือนธันวาคม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวในกิจกรรมของภาคการผลิต สำหรับอัตราเงินเฟ้อเองก็ขยับตัวขึ้นมาในร้อยละ 1.2 ในเดือนพฤศจิกายนจากเดิมในเดือนตุลาคมอยู่ในร้อยละ 1.1 ซึ่งตรงตามแนวโน้มของข้อมูลแรกที่ได้รายงานออกมาในวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน ทางด้านผู้กำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ต่างออกมาตัดสินใจเป็นเสียงเดียวกันว่าจะยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับเดิม ในวันพฤหัสบดี หลังจากมีการรัดกุมเกิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีภายในเดือนพฤศจิกายน คณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายทางการเงิน นำโดยผู้ว่า คุณ Mark Carney ได้ออกเสียงให้มีการรักษษระดับอยู่ในร้อยละ 0.50 โดยทางธนาคารได้ทำการปรับอัตราขึ้นมาเพียงหนึ่งจุดในเซสชั่นที่ผ่านมาของเดือนพฤศจิกายน ผู้กำหนดนโยบายได้ออกเสียงอย่างพ้องต้องกันว่าจะยังคงใช้ระดับการผ่อนคลายทางปริมาณใน 435 พันล้านปอนด์ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวขึ้นมาในระดับสูงที่ 1.3391เหรียญ เมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ในวันพฤหัสบดี แต่ก็ยังคงมีการปรับตัวกลับมาในบริเวณที่ 1.3440เหรียญ อ้างอิงข้อมูลตัวเลขจากสถาบันสถิติแห่งประเทศที่ได้รายงานข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่า ยอดการค้าปลีกในสหราชอาณาจักรอังกฤษได้ปรับตัวขึ้นมาในรอบเจ็ดเดือน ภายในเดือนพฤศจิกายน ส่วนปริมารยอดการค้าปลีกได้เพิ่มขึ้นมาร้อยละ 1.1 ในช่วงพื้นฐานรายเดือนของเดือนพฤศจิกายน พร้อมกันกับการสนับสนุนจากร้านค้าสินค้าในระดับครัวเรือน ซึ่งเป็นการปรับตัวที่มากที่สุดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ที่การขายได้ปรับตัวขึ้นมาในร้อยละ 1.9 ยอดขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาในร้อยละ 0.4 หลังจากที่ได้มีการขยายตัวเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมที่ร้อยละ 0.5 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ขยับตัวไปในระดับสูงตอนแรกที่ 112.883เยน เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในวันพฤหัสบดี แต่ก็ยังมีการปรับตัวกลับลงมาในบริเวณที่ 112.125เยน อ้างอิงข้อมูลการรายงานใหม่จากทางสถาบัน IHS Markit ที่ได้ออกมาระบุไว้ในวันพฤหสับดีว่า กิจกรรมการผลิตของประเทศญี่ปุ่นได้มีการขยายตัวเกิดขึ้นในอย่างมากในรอบเกือบสี่ปี ในช่วงเดือนธันวาคมโดยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อด้านการผลิตใหม่ของสถาบัน Nikkei ได้ปรับตัวขึ้นมา 54.2 ในช่วงเดือนธันวาคม จากเดิมในเดือนพฤศจิกายนใน 53.6 อ้างอิงข้อมูลตัวเลจจากกระทรวงเศรษฐกิจ, การค้า และอุตสาหกรรมที่ได้ออกมารายงานข้อมูลในัวันพฤหัสบดีว่า การผลิตทางด้านอุตสาหกรรมในประเทศญี่ปุ่รได้มีการปรับตัวเกิดขึ้นมา หลังจากที่ตอนแรกมีการคาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคม โดยที่การผลิตทางอุตสาหกรรมได้ปรับตัวขึ้นมาในร้อยละ 0.5 ในรอบเดือนตุลาคม ซึ่งปรับตัวขึ้นมาจากช่วงเดือนกันยายนที่ได้ปรับตัวลงไปในร้อยละ 1.0 แล้วก็ยังอยู่ในแนวโน้มเดียวกับข้อมูลแรกที่ได้นำเสนอออกมาในวันที่ 29 เดือนพฤศจิกายน

Name:  7.jpg
Views: 98
Size:  63.0 KB