การขับรถในช่วงกลางคืนโดยที่มีทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีย่อมต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มมากขึ้น แล้วจะขับรถในช่วงกลางคืนอย่างไรให้ปลอดภัย
การขับรถในช่วงกลางคืนย่อมต้องเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าการขับรถในช่วงกลางวันซึ่งประกอบไปด้วยสาเหตุหลากหลายประการทั้งจากแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ ทัศนวิสัยในการมองเห็นภายนอกที่สั้นลง รถไม่มีความพร้อมสำหรับการขับขี่ สัญญาณไฟชำรุด และ ความประมาทในการขับขี่เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้การขับรถในเวลากลางคืนทำได้ยากกว่าในเวลากลางวันนั่นเองเพราะฉะนั้นข่าวรถจึงได้นำเคล็ดลับขับรถช่วงเวลากลางคืนไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยมาแนะนำกันครับ
หากผู้ขับขี่มีการใช้รถในช่วงกลางคืนจะต้องระมัดระวังผู้ที่ใช้ถนนร่วมกัน เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ขับขี่ที่สูงอายุเป็นจำนวนมากและยังคงใช้งานรถอยู่ซึ่งผู้ขับขี่กลุ่มนี้จะมีการมองเห็นทัศนวิสัยในช่วงค่ำคืนไม่ดีนักจึงเกิดเหตุเฉี่ยวชนกับรถคันอื่นได้โดยง่าย กอปรกับกลุ่มของผู้ขับขี่ที่มีการดื่มสุราแล้วขับรถ (เมาแล้วขับ) ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุให้แก่เพื่อนร่วมทางได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารที่จะสังเกตได้จากในขณะที่มองเห็นรถที่ขับไม่ค่อยตรงเส้นทาง หรือ ปาดซ้าย-ขวาก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะขับรถเข้าใกล้เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขึ้น
กอปรกับการเปิดใช้สัญญาณไฟให้ถูกต้องทั้งไฟหน้า และ ไฟสูง เนื่องจากในช่วงกลางคืนการที่ผู้ขับขี่มีการเปิดใช้ไฟสูงอยู่โดยตลอดนั้นอาจจะทำให้เกิดไปรบกวนกับการมองเห็นของผู้ขับขี่รายอื่นทั้งในรถคันหน้าที่ไม่สามารถมองกระจกมองหลังได้เพราะมีแสงจากไฟสูงส่องเข้ามาทำให้กระจกพร่ามัว ส่วนในรถที่ขับสวนเลนมาก็ไม่สามารถที่จะมองเส้นทางได้ชัดเจนเช่นกันเพราะแสงไฟสูงจากรถคันที่ผู้ขับขี่ใช้งานจะส่องเข้าไปจนทำให้ผู้ขับขี่ที่ขับรถสวนทางมองไม่เห็นทัศนวิสัยด้านหน้าจนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานรถในช่วงค่ำคืนได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเราไม่สามารถที่จะทราบได้ว่ารถคันหน้าจะเกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นเมื่อใด เพราะฉะนั้นการขับรถโดยทิ้งระยะห่างประมาณ 2-3 ช่วงตัวรถจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อีกทั้งหากมีการเบรกกะทันหันโดยรถคันหน้าผู้ขับขี่ก็สามารถที่จะเบรกรถได้ทันโดยที่ไม่ไปเฉี่ยวชนกับรถคันหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้แล้วการขับรถในช่วงเวลากลางคืนมีความเสี่ยงต่อการหลับใน เนื่องจากโดยปกติแล้วช่วงเวลากลางคืนเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพักผ่อนส่งผลให้ผู้ขับขี่อาจมีการง่วงนอนได้โดยง่าย หากรู้ว่าตนเองง่วงนอน หรือ มีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมสำหรับการขับขี่ก็ควรที่จะชะลอรถจอดลงข้างทางแล้วนอนพักสักงีบให้ร่างกายสดชื่นก่อนขับรถต่อไปซึ่งจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุจากการหลับในได้เป็นอย่างดี
สำหรับผู้ที่ต้องขับรถในยามค่ำคืนสามารถที่จะนำความรู้ข้างต้นไปปรับประยุกต์ใช้เพื่อให้สามารถขับรถจนถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยครับ
ที่มา : https://khaorot.com/drive-safely/%E0...90504202514872