ในรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (imf) ที่ได้ระบุข้อมูลออกมาว่า เศรษฐกิจของประเทศโคลอมเบีย ได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวขึ้นมาในครึ้งที่สองของปี 2017 เนื่องจากมีผลกระทบของราคาน้ำมันที่เกิดขึ้นมา และผลกระทบดานการเมืองที่ตอนนี้เริ่มจะลดลงแล้ว นอกจากนั้น อัตราเงินเฟ้อเองก็ยังคงลดลงตามเดิมไปตามเป้าหมายธนาคารกลางของประเทศ ทีมงานของ imf ยังระบุอีกว่า "แนวโน้มของประเทศโคลอมเบียนั้นเป็นที่น่าพอใจ โดยที่การผ่อนคลายด้านนโยบายทางเศรษฐกิจ, ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และ สภาวะในระดับโลกที่น่าพอใจ ได้ส่งเสริมให้มีการเติบโตขึ้นอย่างมากจากเดิมในร้อยละ 1.8 ในปี 2017 เป็นร้อยละ 2.7 ในปี 2018 พร้อมกันกับ การลงทุนและการส่งออกก็ยังส่งเสริมต่อการฟื้นตัวขึ้นมา" ทางกองทุนได้กล่าวว่า แนวโน้มที่น่าพอใจสำหรับการเติบโตในระดับโลก และตลาดน้ำมัน อาจจะยิ่งกระตุ้นการส่งออก ขณะที่การฟื้นตัวในการนำเข้าก็อาจจะเกิดขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะลดการขาดดุลในบัญชีกระแสรายวันในปีนี้ พร้อมกันกับ การปรับตัวลดลงในระยะกลาง แต่ถึงอย่างไรก็ตามทาง imf ได้ออกมาเตือนถึง ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ สภาวะทางการเงินในระดับโลกที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาอย่างสูง ทางกองทุนได้ให้ความเห็นอีกว่า จุดมุ่งหมายของประเทสก็คือการขยายเศรษฐกิจ และพึ่งพาน้ำมันให้น้อยลงเพื่อบรรลุ "เป้าหมายในการกระชัลส่วนต่างของโครงสร้างภายใน และ พัฒนาประสิทธิภาพของตลาด" การเพิ่มขึ้นของผลผลิตในภาคที่มิใช่น้ำมัน มีการขาดแคลน แม้ว่าอยู่ในช่วงที่มีการปรับตัวขึ้น และทาง imf ได้ระบุข้อมูลไว้ในรายงานว่า "เพื่อให้ประเทศโคลอมเบียบรรลุอัตราการเติบโตมากกว่าร้อยละ 3 ในระยะกลาง และสร้างการจ้างงานคุณภาพสูงออกมา รวมทั้งผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นตามลำดับภายหลัง "
![]()