สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของญี่ปุ่น

[Mathew]

อัตราเงินเฟ้อของประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นมาถึง 1.3% ในเดือนสิงหาคม

กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ว่า ราคาผู้บริโภคทั่วประเทศของประเทศญี่ปุ่น ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 1.3% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ใน 1.1% แล้วก็ยังเพิ่มขึ้นมาจากเดิมใน 0.9% ในเดือนกรกฎาคม ราคาผู้บริโภคหลัก ซึ่งไม่รวมกับค่าใช้จ่ายด้านอาหาร เพิ่มขึ้นมาเป็น 0.9% ในรอบปี โดยตรงตามการคาดการณ์ใน 0.4% แล้วก็ยังเพิ่มขึ้นมาจาก 0.3% ในเดือนก่อนหน้านี้ หากเปรียบเทียบเป็นรายเดือนตามฤดูกาลแล้วจะพบได้ว่า อัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปอยู่ที่ 0.5% และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 0.3%

[Mathew]

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังคงใช้มาตรการทางการเงินแบบเดิม

ในวันพุธ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังคงใช้นโยบายการเงินแบบพิเศษอยู่ ตามที่ได้คาดการณ์ไว้กันอย่างกว้างขวาง คณะกรรมการด้านนโยบายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ตัดสินใจซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตร JGBs ในระยะเวลาถึง 10 ปี ได้อยู่ที่0 เปอร์เซ็นต์ คณะกรรมการยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1% ในบัญชีเดินสะพัดที่สถาบันการเงินยังคงรักษาระดับไว้ตามธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น จะดำเนินการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นด้วยความยืดหยุ่น เพื่อให้ยอดค้างชำระเพิ่มขึ้นมาในอัตรารายปีถึง 80 ล้านเยนต่อปี ในด้านแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ธนาคารกล่าวไว้ว่า เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้มต่อการขยายตัวในระดับปานกลาง ทางด้านธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังกล่าวถึง อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึง 2% โดยที่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากส่วนต่างของการคาดการณ์ที่อยู่ในช่วงบวกและระยะกลางจนถึงยาว ในอัตราเงินเฟ้อที่ได้เพิ่มขึ้น

[Mathew]

คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของประเทศญี่ปุ่น ได้ลดลงไป 11.0% ในเดือนมิถุนายน

สำนักงานคณะรัฐมนตรีได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันพฤหัสบดีว่า ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรหลักในประเทศญี่ปุ่น ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 11.0% ในรอบเดือน โดยอยู่ใน 918.6 พันล้านเยน มันตรงตามการคาดการณ์ทีประเมินไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นมาถึง 5.5 หลังจากที่ลดระดับลงไปถึง 8.8 ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบเป็นรายปีจะพบได้ว่า ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรหลัก ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 13.9% ซึ่งมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ใน 4.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้นมาถึง 0.3% ในเดือนก่อนหน้านี้ ยอดคำสั่งซื้อจากโรงงาน เพิ่มขึ้นมา 11.8% ในรอบเดือนและอีก 21.2% ในรอบปี โดยไปอยู่ที่ 426.8 พันล้านเยน ในขณะที่ ยอดคำสั่งซื้อนอกภาคการผลิตได้เพิ่มขึ้นมาถึง 10.9% ในรอบเดือนและอีก 7.7% ในรอบปี โดยอยู่ใน 494.1 พันล้านเยน คำสั่งซื้อจากหน่วยงานรัฐบาล ได้ปรับตัวึข้นมาถึง 57.0% ในรอบเดือนและอีก 34.1% ในรอบปี ที่อยู่ใน 358.7 พันล้านเยน สำรหรับยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 6.0% ในเดือนนี้และอีก 1.2% ในปีนี้ ที่ไปอยู่ใน 980.1 พันล้านเยน ส่วน ยอดคำสั่งซื้อผ่านหน่วยงานต่างๆ เพิ่มขึ้นมา 11.0% ในรอบเดือนและอีก 4.5% ในรอบปี ที่ไปอยู่ใน 128.5 พันล้านเยน มูลค่าทั้งหมดของยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักร ของประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมา 18.8% ในรอบเดือนและอีก 11.5% ในรอบปี โดยอยู่ใน 2,630.4 พันล้านเยน นอกจากนี้ในวันพฤหัสบดี ทางธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้กล่าวว่า ราคาผู้ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนสิงหาคม ซึ่งอยู่ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นมาถึง 0.1% หลังจากที่มีการปรับตัวลดลงไปจากที่เคยปรับตัวขึ้นมา 0.4% ในเดือนกรกฎาคม (แต่เดิมอยู่ใน 0.5%) เมื่อเทียบเป็นรายปีจะพบว่า ราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นมาถึง 3.0% ซึ่งไม่ตรงกับการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ 3.1% แต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมในเดือนก่อนหน้านี้ ตามการปรับลงไปจาก 3.1% ทางธนาคารกล่าวว่า ราคาการส่งออกลดลงไป 0.3% ในรอบเดือนและก็เพิ่มขึ้นมาถึง 2.9% ในเดือนสิงหาคมของรอบปี ขณะที่ ราคาการนำเข้าลดลงไป 0.6% ในรอบเดือน แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นมาถึง 12.2% ในรอบปี

[Mathew]

การใช้จ่ายด้านทุนของประเทศญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นมาอย่างมากตั้งแต่ปี 2007

อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ที่ได้นำเสนอข้อมูลออกมาเมื่อวันจันทร์ว่า การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง ได้เพิ่มขึ้นมากที่สุด ในรอบมากกว่าทศวรรษ ในเดือนเมษายน จนถึงเดือนมิถุนายน การใช้จ่ายด้านทุน ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 12.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในไตรมาสของเดือนมิถุนายน ซึ่งมากกว่าที่เพิ่มขึ้นมาใน 3.4% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ ดังนั้นนี้คือการเติบโตที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 ที่ผ่านมา การใช้จ่ายด้านทุน โดยไม่รวมกับซอฟต์แวร์ ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 6.9% ในไตรมาส โดยที่คุณ Marcel Thieliant นักเศรษฐศาสตร์จาก สถาบัน Capital Economics กล่าวว่า ข้อมูลด้านการใช้จ่ายด้านทุนได้แสดงให้เห็นถึง การปรับตัวเพิ่มขึ้นของการเติบโตในจีดีพี ในการคาดการณ์ครั้งที่สองในสัปดาห์หน้า ข้อมูลจีดีพีในฉบับแก้ไข จะนำเสนอออกมาในวันที่ 10 เดือนกันยายน

[Mathew]

ภาคการผลิตของประเทศญี่ปุ่น ได้ปรับตัวขึ้นมาในเดือนสิงหาคม

ผลจากการสำรวจครั้งล่าสุดจากสถาบัน Nikkei ที่ได้นำเสนอข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่า ภาคการผลิตของประเทศญี่ปุ่น ยังคงขยายตัวต่ออย่างเนื่องในเดือนสิงหาคม และก็ยังอยู่ในอัตราที่รวดเร็วขึ้น โดยมีอัตรา PMI ของการผลิตอยู่ที่ 52.5 ซึ่งยังเพิ่มขึ้นมาจากเดิมใน 52.3 ในเดือนกรกฎาคม แล้วยังเคลื่อนตัวเหนือกว่าแนวเส้นขึ้นแล้วลงที่ระดับ 50 ที่ได้ช่วยแยกการขยายตัวออกจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ หากคิดตามการแยกประเภทแล้วจะพบว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจัยการผลิตและการผลิตสินค้า ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุด ในรอบหลายปี ขณะที่อุปสงค์โดยรวมปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าคำสั่งของการส่งออกจะไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปได้ โดยนี้เป็นเดือนที่สามติดต่อกัน

[Mathew]

คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของประเทศญี่ปุ่น ได้ลดลงไป 8.8% ในเดือนมิถุนายน

คณะรัฐบาลได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันพฤหัสบดีว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องหลักของประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวลดลงไปในฤดูกาลนี้ที่ 8.8% เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 827.6 พันล้านเยน ซึ่งมันไม่ตรงกับการคาดการณ์ที่ได้ประเมินไว้ใน 3.7% หลังจากที่ลดลงไป 1.0% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบเป็นรายปีแล้วจะพบได้ว่า คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลักได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 0.3% โดยเป็นอีกครั้งที่ไม่ตรงกับการคาดการณ์ ที่ประเมินไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 10.5% และอาจจะลดลงไปจากระดับ 16.5% ในเดือนก่อนหน้า มูลค่าคำสั่งซื้อเครื่องจักรทั้งหมด ที่ได้รับจากผู้ผลิตถึง 280 รายที่ได้ดำเนินการในประเทศญี่ปุ่นได้ลดลงมาเป็น 14.4% ในไตรมาส และอีก 3.4% ในปีนี้ ในมูลค่าที่ 2,213.9 พันล้านเยน คำสั่งซื้อสินค้าทางอุตสาหกรรมได้ลดลงไป 15.9% ในเดือนนี้ และเพิ่มขึ้นมาถึง 6.6% ในปีนี้ โดยเป็นมูลค่าถึง 381.8 พันล้านเยน ในขณะเดียวกัน คำสั่งซื้อนอกภาคการผลิตกลับลดลงไป 7.0% ในเดือนนี้และอีก 4.6% ในปีนี้ที่445.4 พันล้านเยน คำสั่งซื้อของรัฐบาลลดลงไป 16.7% ในเดือนนี้ และอีก 17.1% ในปีนี้ โดยคิดเป็นมูลค่าถึง 228.4 พันล้านเยน ในขณะที่ ยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศก็ลดลงไป 12.0% ในเดือนนี้ และ3.2% ในปีนี้ที่ โดยคิดเป็นมูลค่าถึง 925.0 พันล้านเยน ส่วนยอดคำสั่งซื้อผ่านหน่วยงาน พบว่ายังลดลงไป 15.8% ในเดือนนี้ และ 10.3% ในปีที่มูลค่า 115.7 พันล้านเยน สำหรับไตรมาสที่สองของปี 2018 พบว่า คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลักเพิ่มขึ้น 2.2% ในไตรมาสนี้ และอีก 8.0% ในปีนี้ ที่มูลค่า 2,678.6 พันล้านเยน สำหรับไตรมาสที่สามพบว่า คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลัก คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงไป 0.3% ในไตรมาสนี้ และก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 6.4% ในปีนี้ ที่มูลค่า2,671.4 พันล้านเยน ทางธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยในวันพฤหัสว่า ปริมาณเงินแบบ m2 ของประเทศญี่ปุ่น ได้ปรับตัวขึ้นมาถึง 3.0% ในเดือนกรกฎาคมของปีนี้ โดยที่มีมูลค่าถึง 1,007.5 ล้านล้านเยน ซึ่งไม่ตรงกับที่คาดการณ์ไว้ใน 3.1% ซึ่งก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากการนำเสนอของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปริมาณเงินแบบ m3 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 2.6% ไปเป็น 1,338.6 ล้านล้านเยน ซึ่งยังไม่เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากเดือนก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะมีผลออกมาคลาดเคลือนจากการคาดการณ์ ที่ประเมินไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นมาถึ 2.7% ปริมาณเงินแบบ l ก็เพิ่มขึ้นมา 2.3% ในปีนี้ โดยมีมูลค่าถึง1,785.8 ล้านล้านเยน ซึ่งลดลงมาจากเดิมใน 2.5% ของเดือนก่อนหน้านี้

[Mathew]

อัตราการว่างงานของประเทศญี่ปุ่น ได้ปรับตัวขึ้นมาใน 2.4% ในเดือนมิถุนายน

กระทรวงการสื่อสารและกิจการภายใน ได้เปิดเผยข้อมูลในวันอังคารว่า อัตราการว่างงานในประเทศญี่ปุ่นได้ร่วงลงไป 2.4% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ใน 2.3% และเพิ่มขึ้นจากเดิมใน 2.2% ในเดือนพฤษภาคม อัตราส่วนของตำแหน่งงานและผู้สมัครงาน อยู่ใน 1.62 ซึ่งมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ใน 1.60 โดยอาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในเดือนก่อนหน้า สำหรับ จำนวนคนที่มีงานทำในเดือนมิถุนายน ได้อยู่ที่ 66.87 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.04 ล้านคน หรือคิดเป็น 1.6% ในรอบปี สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนมิถุนายน ได้อยู่ที่ 1.68 ล้านคน ซึ่งลดลงมาจากปีก่อนหน้านี้ถึง 240,000 คนหรือ 12.5% ต่อปี

[Mathew]

กิจกรรมทางอุตสาหกรรมทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงเศรษฐกิจ, การค้าและอุตสาหกรรม ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กิจกรรมทางอุตสาหกรรมทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ได้ฟื้นตัวขึ้นไปในเดือนเมษายน ดัชนีกิจกรรมทางอุตสาหกรรมทั้งหมดเพิ่มขึ้นมา 0.1% ในรอบเดือน ซึ่งน้อยไปกว่าการปรับตัวขึ้นมา 1% ในเดือนเมษายน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในอัตรารายเดือน กลับดีกว่าที่ได้คาดการณ์ต่อการเติบโต ข้อมูลได้แสดงให้ทราบว่า กิจกรรมการก่อสร้างมีการเติบโตที่ 0.7 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมใน 2.4 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเดียวกันก็พบว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมได้ลดลงไป 0.2% แล้วก็หันกลับมาปรับตัวขึ้นไปถึง 0.5% ในเดือนเมษายน ดังนั้นกิจกรรมทางอุตสาหกรรมระดับการบริการเพิ่มขึ้นมาถึง 0.1% หลังจากที่ได้เพิ่มขึ้นมาใน 1% เมื่อเดือนที่แล้ว ในขณะที่ ในทุกปี การเติบโตของกิจกรรมทางอุตสาหกรรมทั้งหมดเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.6% จากระดับเดิมใน 1.4% ในเดือนก่อนหน้า

[Mathew]

ปริมาณเงิน m2 ของประเทศญี่ปุ่น ได้ปรับตัวขึ้นมาถึง 3.2% ในเดือนมิถุนายน

ปริมาณเงิน M2 ของประเทศญี่ปุ่น ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.2% ในรอบปีของเดือนกรกฎาคม ทางด้านธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ออกมากล่าวไว้ในวันอังคารว่า มันอยู่ในระดับราวๆ 1,007.2 ล้านล้านเยน ซึ่งได้ตรงกับการคาดการณ์ และก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้านี้ ปริมาณเงินแบบ M3 ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 2.7% โดยมาอยู่ใน 1,336.6 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แล้วยังตรงกับการคาดการณ์ ปริมาณเงินแบบ L ได้ปรับตัวขึ้นมา 3.1% เป็น 1,750.7 ล้านล้านเยนในรอบปี ซึ่งลดลงจากเดิมในเดือนพฤษภาคมใน 3.2% ในไตรมาสที่สองของปี2018 จะพบได้ว่า ปริมาณเงินแบบ M2 ได้เพิ่มขึ้นมา 3.2% ขณะที่ปริมาณเงินแบบ M3 ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 2.7% ส่วนปริมาณเงินแบบ L เพิ่มขึ้นถึง 3.1%

[Mathew]

เงินเยนได้ปรับตัวขึ้นเพิ่มเติมเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ

สกุลเงินเยนได้มีการขยายการปรับตัวในช่วงแรก เมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สำคัญที่สุดอื่นๆ ในช่วงต้นของการเทรดที่นิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ เงินเยนได้แข็งค่าขึ้นมาถึง 111.31 เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์และอีก 145.19 เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ จากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 111.98 และไปในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 10 วันที่ 146.49 ตามลำดับ เงินเยนได้แข็งค่าขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในช่วงแรกที่ 129.50 เมื่อเทียบกับเงินยูโรซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 128.59 เงินเยนได้แข็งค่าขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีกว่าที่ 74.33 ต่อเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์จากระดับต่ำสุดในรอบ 5 วันที่ 75.27 เงินเยนได้แข็งค่าขึ้นไปใน 81.33 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 82.11 แนวต้านต่อไปสำหรับเงินเยนจะไปอยู่ที่ 109.00 เยน เมื่อเทียบกับฟรังก์, 143.00 เมื่อเทียบกับเงินปอนด์, 127.00 เมื่อเทียบกับเงินยูโร, 72.00 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ และ 80.00 ต่อเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย