สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของสหราชอาณาจักรอังกฤษ

[Jeans]

เงินปอนด์ได้ร่วงลงมา เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

เงินปอนด์ได้ลดระดับลงไป เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในช่วงก่อนเซสชั่นยุโรป ในวันพุธ เงินปอนด์ได้ปรับตัวลงไปถึง 1.3163 เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์, 148.60 เมื่อเทียบกับเยนและอีก 1.2701 เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์ จากระดับสูงสุดที่อยู่ใน 1.3184, 148.94 และ 1.2725 ตามลำดับ เงินปอนด์ ปรับตัวลงมาใน 0.8935 จากที่ย้อนกลับมาจากระดับสูงสุดในรอบ 5 วันช่วงแรกที่ 0.8920 เมื่อเทียบกับเงินยูโร แนวรับถัดไปสำหรับเงินปอนด์ก็จะสามารถพบได้ใน 1.30 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์, 147.00 เมื่อเทียบกับเงินเยน, 1.25 เมื่อเทียบกับฟรังค์และอีก 0.91 เมื่อเทียบกับเงินยูโร

[Jeans]

ดัชนีการเงินของครัวเรือนในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูง

อ้างอิงข้อมูลจากสถาบัน IHS Markit แสดงให้เห็นในวันจันทร์ แนวโน้มของ สถานะทางการเงินของภาคครัวเรือนในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ยังคงอยู่ใกล้กับการสำรวจในเดือนกันยายน ดัชนีการเงินของภาคครัวเรือน ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 45.9 ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดครั้งที่สองนับตั้งแต่ที่มีการเริ่มสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009 การเงินในภาคครัวเรือน ได้รับการสนับสนุนจาก รายได้ที่เพิ่มขึ้นมา จากการจ้างงานและภาวะตลาดแรงงานที่ดีขึ้น แนวโน้มของภาคครัวเรือนในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ที่เกี่ยวกับ งบดุลในอนาคตได้แข็งแกร่งขึ้นในเดือนกันยายน นอกจากนี้ รายได้จากการจ้างงาน เพิ่มขึ้นในเดือนกันยายน ในขณะเดียวกัน แนวโน้มในความปลอดภัยในการจ้างงาน ได้ลดระดับลงไป ซึ่งขัดแย้งกับสัญญาณโดยทั่วไปที่ดีขึ้นจาก การประเมินการเงินในภาคครัวเรือนในปัจจุบันและในอนาคต ถึงแม้ว่า การคาดการณ์ต่อ เงินเฟ้อ ได้ทรงตัวอยู่ในเดือนกันยายน สำหรับสัดส่วนของ ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นภาคครัวเรือนที่คาดการณ์ว่าในภาคครัวเรือน ได้อยู่ในอัตราที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2016 คุณ Joe Hayes นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน IHS Markit ได้กล่าวไว้ว่า "ผลการสำรวจจากสถาบัน HFI ได้แสดงให้เห็นถึง ระดับที่ต่ำที่สุดในอันดับสองของการมองโลกในแง่ร้าย เกี่ยวกับการเงินในอนาคต นับตั้งแต่ช่วงการลงประชามติของสหภาพยุโรป" คุณ Hayes กล่าวเสริมไว้ว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การสำรวจล่าสุดยังคงสร้างความกังวล เกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค

[Jeans]

การเติบโตของ GDP สหราชอาณาจักรใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี

เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปีในเดือนกรกฎาคมเนื่องจากสภาพอากาศที่อุ่นขึ้นส่งผลให้ยอดขายค้าปลีกปรับตัวดีขึ้นท่ามกลางการฟื้นตัวของการก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 0.6% ในช่วง 3 เดือนแรกของเดือนกรกฎาคมซึ่งนับได้เร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า อัตรานี้เร็วกว่าคาด 0.5% และ 0.4% ในไตรมาสที่สอง หัวหน้าฝ่าย GDP Rob Kent-Smith กล่าวว่า "บริการเติบโตขึ้นอย่างมากโดยยอดขายค้าปลีกมีการเติบโตดีขึ้นจากสภาพอากาศที่อบอุ่นและฟุตบอลโลก" "ภาคก่อสร้างก็กลับมาดีขึ้นหลังจากเริ่มอ่อนตัวลงในปีนี้" เคนท์สมิ ธ กล่าวว่าภาคบริการที่โดดเด่นเป็นผู้นำการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมโดยวิศวกรนักบัญชีและนักกฎหมายทุกคนมีช่วงเวลาที่วุ่นวายซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของการก่อสร้าง ในเดือนกรกฎาคม GDP สูงขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนซึ่งเร็วกว่าการเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิถุนายน ONS ระบุว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนกรกฎาคมจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของการทำเหมืองแร่และเหมืองแร่ที่ 3.3% การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกลับสู่การผลิตโดยการบำรุงรักษาตามแผนในเดือนมิถุนายน ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวลง 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคม การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 0.9 จากร้อยละ 1.1 ในเดือนมิถุนายน ในขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 1.1 จากร้อยละ 1.5 ในช่วง 3 เดือนแรกของเดือนกรกฎาคมผลผลิตภาคบริการขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบกับ 3 เดือนแรกของเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งนับเป็นการเติบโตที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมกราคม 2560 โดยในช่วงที่ผ่านมา ONS ระบุว่ายอดการก่อสร้างยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ในช่วงสามเดือนถึงเดือนกรกฎาคม การขาดดุลการค้าที่มองเห็นได้ในอังกฤษลดลงเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนกรกฎาคมข้อมูล ONS แสดงให้เห็น การขาดดุลการค้าสินค้าลดลงมาอยู่ที่ 9.97 พันล้านปอนด์จาก 10.68 พันล้านปอนด์ในเดือนมิถุนายน ในขณะเดียวกันการเกินดุลบริการเพิ่มขึ้นเป็น 9.8 พันล้านปอนด์จาก 9.7 พันล้านปอนด์เมื่อเดือนก่อน ส่งผลให้ยอดการค้ารวมมียอดติดลบ 111 ล้านปอนด์เทียบกับ -GBP 942 ล้านในเดือนมิถุนายน การขาดดุลการค้าของสหราชอาณาจักรรวมลดลง 1.4 พันล้านปอนด์เป็น 3.4 พันล้านปอนด์ในช่วงสามเดือนถึงเดือนกรกฎาคม

[Jeans]

การอนุมัติสินเชื่อบ้านในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้ลดลงไปในเดือนกรกฎาคม

อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ที่ได้นำเสนอข้อมูลออกมาในวันศุกร์ว่า การอนุมัติสินเชื่อบ้านในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้ลดลงไปในเดือนกรกฎาคม จำนวนของการอนุมัติสินเชื่อบ้านของเดือนกรกฎาคม ได้ลดลงมาเป็น 39,584 จากเดิมใน 40,330 ในเดือนมิถุนายน ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ ได้คาดการณ์ว่า การอนุมัติจะเพิ่มขึ้นเป็น 40,650 ยอดการกู้ยืมสินเชื่อบ้านรวมทั้งหมดสำหรับตลาดในเดือนกรกฎาคม ทั้งหมดได้อยู่ที่ 24.6 พันล้านปอนด์ โดยคิดเป็น 7.6% ที่มากกว่าเมื่อปีที่ผ่านมา การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ได้เพิ่มสูงขึ้นมา 8.1% จากปีก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม ในเวลาเดียวกัน เงินฝากส่วนบุคคลได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 1.2 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา คุณ Peter Tyler ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้กล่าวว่า "เดือนกรกฎาคม ได้พบกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องใน ยอดการกู้ยืมสินเชื่อบ้านทั้งหมด โดยส่วนใหญ่มันเป็นผลมาจาก การจำนองใหม่อีกครั้งเนื่องจากเจ้าของบ้านได้ผลประโยชน์จากสัญญาที่ ที่มาจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานล่าสุด" แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกว้าง ยังคงอยู่ในช่วงผสม จากการที่ภาคครัวเรือนยังคงต้องเผชิญหน้ากับรายได้ที่ถูกบีบมากขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น " คุณ Tyler ได้กล่าวไว้ "นี้จึงอาจอธิบายได้ถึง การเปลี่ยนแปลงไปสู่เงินฝากในบัญชีแบบเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมักจะเลือกที่จะเก็บเงินไว้ให้อยู่ใกล้ตัว"

[Jeans]

รายงานจากทาง Rightmove เกี่ยวกับ ราคาบ้านในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้ลดระดับลงไป ในช่วงเดือนสิงหาคม

ทางเว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์ Rightmove ได้ออกมานำเสนอข้อมูในวันจันทร์ว่า ราคาบ้านในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้ลดลงไปในเดือนสิงหาคม เนื่องจากมีผู้ขายจำนวนมากได้เข้ามาในตลาด ในช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อนมากขึ้น ราคาขายโดยเฉลี่ย ได้ลดลงไป 2.3% ในเดือนสิงหาคมจากเดิมในเดือนกรกฎาคม ในลอนดอนจะพบว่า ราคาบ้านได้ลดลงไป 3.1% ในรอบเดือนสิงหาคม คุณ Miles Shipside ผู้อำนวยการจากทาง Rightmove กล่าว ผู้ขาย ที่เข้ามาในตลาดในช่วงเทศกาลวันหยุดสุดสัปดาห์ในช่วงที่คนเยอะมากที่สุด มักจะมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะขาย และลดราคาลงตามๆกันไป เมื่อเทียบเป็นรายปี จะพบได้ว่า ราคาบ้านได้เพิ่มขึ้นถึง 1.1% ต่อปี มาเป็น 301,973 ปอนด์ต่อปี

[Jeans]

อัตราการเช่าอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้เพิ่มขึ้นมาถึง 15% ตลอดช่วง 5 ปีถัดไป

จากการสำรวจโดยสถาบัน Royal Statues Chartered Surveyors ได้คาดว่า ค่าเช่าในสหราชอาณาจักรอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 15% ในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ ในอีกสิบสองเดือนข้างหน้าคาดว่า จะมีการเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2% ของค่าเช่า ทางด้านผู้ตอบแบบสอบถาม สังเกตได้ว่า เจ้าของบ้านรายเล็กๆ กำลังจะยกเลิก การปล่อยให้เช่าเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในด้านภาษี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน RICS คุณ Simon Rubinsohn ได้กล่าว ความเสี่ยง นั่นก็คือ การไหลเวียนเข้ามาที่ลดลงของอุปทาน ที่อาจจะเดินหน้าเข้าสู่ค่าเช่าที่สูงขึ้นมา ราคาบ้านได้ปรับตัวสูงขึ้นมาถึง +4% ในเดือนกรกฎาคม โดยตรงตามการคาดการณ์

[Jeans]

ความเชื่อมัน่ของผู้บริโภคจากสหราชอาณาจักรอังกฤษในเดือนกรกฎาคม

อ้างอิงถึงผลการสำรวจล่าสุดจากสถาบัน GfK ที่ได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันอังคารว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้ลดลงไปในเดือนกรกฎาคม โดยมีดัชนีที่ -10 โดยไม่ตรงกับการคาดการณ์ ที่ประเมินไว้ว่าน่าจะอยู่ใน -9 ซึ่งยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากข้อมูลในเดือนมิถุนายน "ในช่วงระยะกลาง และในช่วงที่มีแต่ความไม่แน่นอน ในการดำเนินการสำหรับการถอนตัวของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ออกจากสหภาพยุโรปในรอบแปดเดือน ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ว่าข่าวดีที่จะได้รับมา จะช่วยเปลี่ยนแปลงตัวเลขจากเชิงลบเป็นบวกบ้าง" คุณ Joe Staton ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ลูกค้าจากสถาบัน GfK

[Jeans]

แนวโน้มการเงินในภาคครัวเรือนของสหราชอาณาจักรอังกฤษ อยู่ในช่วงบวก

อ้างอิงผลการสำรวจของสถาบัน IHS Markit และ Ipsos Mori ที่ได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันจันทร์ว่า แนวโน้มทางการเงินของภาคครัวเรือนในประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2016 ที่ได้อยู่ในช่วงบวก ในขณะที่ความกดดันทางการเงินที่ได้ลดลงไปในช่วงเดือนกรกฎาคม ดัชนีการเงินในภาคครัวเรือนที่ปรับตามฤดูกาล หรือ HFI ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 44.6 ในเดือนกรกฎาคม จากระดับเดิมใน 43.6 ในเดือนมิถุนายน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อัตรานี้ก็อยู่ต่ำกว่า 50 จึงแสดงให้เห็นถึง แนวโน้มที่ไม่ค่อนดีนัก ที่เกี่ยวข้องกับภาคครัวเรือนของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ดัชนี ที่ใช้ในการตรวขวัดความผันผวนสุขภาพในด้านเงิน ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 51.3 ในเดือนกรกฎาคมจากเดิมใน 48.2 ในเดือนก่อนหน้า รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการจ้างงาน และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนแอลง มารวมกันเพื่อช่วยบรรเทาความเครียดที่เกิดขึ้นในด้านการเงินในปัจจุบัน ในส่วนของราค าจะพบได้ว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อได้ลดระดับอยู่ในช่วงต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ภายในเดือนกรกฎาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภาคครัวเรือนในสหราชอาณาจักรอังกฤษ คาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อในช่วงปีหน้า Sam Teague นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน IHS Markit ได้กล่าวว่า " แม้ว่า ภาคครัวเรือนต่างก็ได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นในช่วงนี้ โดยอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ทำตอบแบบสอบถาม ที่คาดว่าธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนถึงสิ้นปีนี้"

[Jeans]

รายงานจากทาง Rightmove เกี่ยวกับราคาบ้านในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้ลดลงไป 0.1%

ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในสหราชอาณาจักร ได้ลดลงไป 0.1% ในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยอ้างอิงจากการรายงานของเว็บไซต์ผู้ให้บริการติดตามราคาอสังหาริมทรัพย์ Rightmove ที่มีข้อมูลอยู่ใน 309,191 ปอนด์ ในช่วงรายปี จะพบได้ว่าราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นถึง 1.4 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้ชะลอตัวลดลงมาจาก 1.7 เปอร์เซ็นต์ในเดือนก่อนหน้านี้ สำหรับจำนวนบ้านทั้งหมดที่ขายได้ พบว่าเพิ่มขึ้นถึง 8.6 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจำนวนยอดขายจะร่วงลงไปก็ตามที แต่ก็ช่วยให้ให้เพิ่มปริมาณขึ้นมา หากมาพิจารณาตามภุมิภาค จะพบว่าการลดระดับลงมามากที่สุด จะอยู่ในลอนดอนและในตะวันออกเฉียงใต้

[Jeans]

การเติบโตของโรงงานในอังกฤษยังคงอ่อนลงในเดือนมิถุนายน

การเติบโตของภาคการผลิตในสหราชอาณาจักรยังคงชะงักลงในเดือนมิถุนายนผลการสำรวจจาก IHS Markit แสดงถึงวันจันทร์
ดัชนีจัดซื้อจัดจ้างของ IHS Markit / Chartered Institute of Purchasing & Supply เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 54.4 ในเดือนมิถุนายนจากที่มีการปรับปรุง 54.3 ในเดือนพฤษภาคม คะแนนเกือบสี่จุดต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 51 เดือนในเดือนพฤศจิกายน 2560
คะแนนสูงกว่า 50 หมายถึงการขยายตัว การอ่านที่คาดหวังคือ 54.2
การเติบโตของผลผลิตปรับตัวลดลงเพื่อชดเชยการเร่งการเติบโตของคำสั่งซื้อใหม่และการสร้างงานที่ดีขึ้น การสำรวจได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 12 และ 26 มิถุนายน
Rob Dobson ผู้อำนวยการ IHS Markit กล่าวว่าอุตสาหกรรมที่อาจติดขัดในภาวะซบเซาเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะต้องมองไปที่ภาคอื่น ๆ หากการเติบโตของจีดีพีเป็นไปตามความคาดหวังในครึ่งหลังของปี