สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของออสเตรเลีย

[Aaron]

รายงานข้อมูลการว่างงานของประเทศออสเตรเลียในวันพฤหัสบดี

ประเทศออสเตรเลียจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขในวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับ จำนวนผู้ว่างงานในเดือนกันยายน โดยเป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เกิดขึ้น คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงาน จะทรงตัวอยู่ที่ 5.3% โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมาเป็น 15,000 ตำแหน่งหลังจากที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็น 34,700 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม อัตราการมีส่วนร่วมยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน 66.2% ประเทศสิงคโปร์จะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของเดือนกันยายนเกี่ยวกับ การนำเข้า, การส่งออก และดุลการค้า โดยในเดือนสิงหาคมพบว่า การนำเข้ามีมูลค่าอยู่ที่ 41.00 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และการส่งออกอยู่ที่ 45.18 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ส่วนดุลการค้ามีการเกินดุลอยู่ที่ 4.18 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

[Aaron]

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศออสเตรเลียลดลงไปสู่ระดับต่ำสุด นับตั้งแต่ช่วงปี 2015

ผลการสำรวจจากสถาบัน Westpac ที่ได้นำเสนอข้อมูลออกมาในวันวันพุธว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศออสเตรเลียลดลงไปสู่ระดับต่ำสุด ในรอบมากกว่าสี่ปีภายในเดือนตุลาคม ถึงแม้ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตามที ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Westpac-Melbourne Institute ลดลงไปสู่ระดับ 92.8 ในเดือนตุลาคมจากเดิมใน 98.2 ในเดือนกันยายน มันเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2015 โดยปกติแล้วการลดอัตราดอกเบี้ยจะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความคาดการณ์ของผู้บริโภค และการประเมินด้านเงินของตนเอง อย่างไรก็ตามในการสำรวจครั้งนี้พบว่า ตัวชี้วัดของการประเมินทางการเงินในครอบครัวปัจจุบันลดลงไป 4.9% ไปเป็น 80.2 และสำหรับการเงินของครอบครัวในอนาคต ได้ลดลงไป 3.7% สู่ระดับต่ำในรอบ 5 ปีที่ 93.3 ถึงแม้ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่การประเมินเศรษฐกิจในปีหน้าได้ลดลงไปถึง 6% ไปอยู่ที่ 87.1 และแนวโน้มในรอบ 5 ปีก็ลดลงมาเป็น 9.1% ไปอยู่ที่ 88.9 ทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้จ่าย ปรับตัวลงไปอีกด้วยในเดือนตุลาคม สำหรับดัชนีย่อยของ 'ระยะเวลาที่จะซื้อของใช้ในครัวเรือนที่สำคัญ' ลดลงไปเท่ากับ 4.2% ที่ 114.5 คุณ Bill Evans หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Westpac ได้กล่าวไว้ว่า เหตุการณ์ระดับโลกส่งผลทำให้ผลประกอบการอ่อนแอลงไปในเดือนตุลาคม อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และประเทศจีนที่แย่ลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกระหว่างที่มีการคาดการณ์ถึงภาวะการถดถอยในสหรัฐอเมริกา คุณ Evans ตั้งข้อสังเกตว่าคณะกรรมการธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย น่าจะใช้เวลาในการประเมินผลกระทบของการลดอัตราดอกเบี้ยลงสามครั้ง ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจปรับเปลี่ยนอีกครั้ง ทาง Westpac คาดการณ์ว่าการปรับเปลี่ยนครั้งต่อไป จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยลงไปอีกถึง 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

[Aaron]

รายงานจากAiG: ดัชนีการก่อสร้างของประเทศออสเตรเลียลดลงไปอยู่ที่ 42.6 ในเดือนกันยายน

การสำรวจล่าสุดจากกลุ่มอุตสาหกรรมของออสเตรเลียที่นำเสนอข้อมูลออกมาในวันจันทร์ว่า ภาคการก่อสร้างของประเทศออสเตรเลีย ยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนกันยายน และเกิดขึ้นมากกว่าเดิม โดยมีดัชนีประสิทธิภาพของการก่อสร้างที่ปรับตัวตามฤดูกาลอยู่ที่ 42.6 ซึ่งลดลงมาจากเดิมที่ 44.6 ในเดือนสิงหาคม และเคลื่อนตัวลงไปอยู่ต่ำกว่าแนวเส้นขึ้นและลงในระดับที่ 50 ซึ่งได้แยกการขยายตัวออกจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมโดยทั้งหมดได้หดตัวลงไปเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน ในแต่ละองค์ประกอบนั้น กิจกรรม, คำสั่งซื้อใหม่ และการส่งมอบซัพพลายเออร์ทั้งหมด ลดลงไปอย่างมากกว่าเดิม ในขณะที่การจ้างงาน และราคาขายก็ยังคงอยู่ในพื้นที่สีแดง ราคาปัจจัยการผลิต และค่าจ้างโดยเฉลี่ยลดลงไป แต่ยังคงอยู่ในพื้นที่ของการขยายตัว

[Aaron]

ยอดการค้าปลีกของประเทศออสเตรเลียเพิ่มขึ้นมาในเดือนสิงหาคม

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติออสเตรเลียได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ว่า ยอดการค้าปลีกของประเทศออสเตรเลียเพิ่มขึ้นมาในเดือนสิงหาคม ยอดการค้าปลีกเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.4% ในรอบเดือน หลังจากที่ไม่มีการเติบโตในเดือนที่ผ่านมา มันเป็นการเติบโตอย่างมากที่สุดในรอบสี่เดือน อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยใน 0.5% ยอดการค้าปลีกด้านอาหารเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.4% และยอดการขายเสื้อผ้า และรองเท้าเพิ่มขึ้นมาเท่ากับ 1.8% ยอดการขายของในห้างสรรพสินค้า และยอดการค้าปลีกในครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.1% และ 0.3% ตามลำดับ โดยการปรับตัวขึ้นเหล่านี้ถูกชดเชยไปบางส่วนด้วยการปรับตัวลงของร้านกาแฟ, ร้านอาหาร และบริการซื้ออาหารกลับบ้าน คุณ Ben Udy นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics กล่าวว่ายอดการค้าปลีกในเดือนสิงหาคมยังคงลดลงไป แม้ว่ามะการลดอัตราภาษีของรัฐบาล ที่ชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่มีการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 การเติบโตของการบริโภคไม่น่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงไตรมาสที่สาม นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเกิดแรงต้านระหว่างประเทศ และความเชื่อมั่นในประเทศที่ลดลง ต่อน้ำหนักในกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในปีหน้า

[Aaron]

รายงานข้อมูลยอดการค้าปลีกของประเทศออสเตรเลีย ในวันศุกร์

ประเทศออสเตรเลียมีกำหนดจะนำเสนอข้อมูลของเดือนสิงหาคมเกี่ยวกับ ยอดการค้าปลีก โดยเป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกิดขึ้น โดยคาดการณ์ว่ายอดการค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.5% ในรอบเดือนนี้ หลังจากที่ลดลงไปเป็น 0.1% ในเดือนกรกฎาคม ประเทศมาเลเซียจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับ การนำเข้า, การส่งออก และดุลการค้าของเดือนสิงหาคม โดยในเดือนกรกฎาคมพบว่า การนำเข้ามีมูลค่าอยู่ที่ 73.7 พันล้านริงกิต และการส่งออกมีมูลค่าอยู่ที่ 88.0 พันล้านริงกิต สำหรับการเกินดุลทางการค้าอยู่ที่ 14.3 พันล้านริงกิต ประเทศฟิลิปปินส์จะพบกับข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับ ราคาผู้บริโภคของเดือนกันยายน โดยในเดือนสิงหาคมพบว่า อัตราเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มขึ้นมาเป้น 0.1% ในรอบเดือน และอีก 1.7% ต่อปี ตลาดในประเทศจีนยังคงปิดทำการ เนื่องจากเป็นวันหยุดแห่งชาติ พวกเขาจะเปิดทำการในวันอังคาร

[Yellowjixn]

มีรายงานออกมาว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงไปในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน จนถึงเดือนตุลาคม สำหรับดัชนีจากทาง Westpac ที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั้นลดลงไปยัง 92.8 ในเดือนตุลาคม ยังรวมถึงตัวบ่งชี้การประเมินการเงินของครัวเรือนทั้งในปัจจุบัน และอนาคตต่างก็ร่วงลงมา มันจึงย้อนแย้งกับความตั้งใจในการลดอัตราภาษีลง เพราะว่าการคาดการณ์ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้ายังลดลงถึง 6 เปอร์เซ็นต์

[Aaron]

รายงานจาก AiG: ภาคการบริการของประเทศออสเตรเลียปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าเดิมในเดือนกันยายน

ผลการสำรวจล่าสุดจากกลุ่มอุตสาหกรรมของออสเตรเลียที่นำเสนอข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่า ภาคการบริการในประเทศออสเตรเลียยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเดือนกันยายน และอยู่ในอัตราที่มากกว่าเดิมเล็กน้อย โดยมีดัชนีประสิทธิภาพการบริการอยู่ที่ 51.5 ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ 51.4 ในเดือนสิงหาคม และมันยังคงเคลื่อนตัวขึ้นไปสูงกว่าเส้นขึ้นและลงที่ระดับ 50 เล็กน้อย ที่ได้แยกการขยายตัวออกจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ ในส่วนประกอบต่างๆ พบว่า การจ้างงาน, คำสั่งซื้อใหม่, การส่งมอบซัพพลายเออร์, การใช้กำลังการผลิต, ราคาปัจจัยการผลิต และค่าจ้างโดยเฉลี่ย ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ ยอดการขาย, สินค้าสำเร็จรูป และราคาขาย

[Aaron]

รายงานอัตราดอกเบี้ยของประเทศออสเตรเลียในวันอังคาร

ธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลียจะสรุปผลการประชุมของนโยบายการเงิน จากนั้นจะประกาศการตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยเป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นที่คาดการณ์กันว่าธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐาน จากระดับต่ำสุดที่บันทึกไว้ได้ที่ 1.00% ไปเป็น 0.75% ธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย จะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของเดือนกันยายนเกี่ยวกับ ดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยในเดือนสิงหาคมพบว่า ดัชนีเพิ่มขึ้นมาเป็น 6.2% ไปอยู่ที่ระดับ 124.9 ประเทศออสเตรเลียจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของเดือนสิงหาคม เกี่ยวกับการอนุมัติการก่อสร้าง และจะพบกัผลการดำเนินงานของเดือนกันยายน เกี่ยวกับดัชนีประสิทธิภาพการผลิต จากกลุ่มอุตสาหกรรมของออสเตรเลีย การอนุมัติการก่อสร้างคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 2.0% ต่อเดือน แต่ก็ยังลดลงมาเป็น 20.0% ต่อปีหลังจากร่วงลงมาอยู่ที่ 9.7% ในเดือนนี้ และอีก 28.5% ต่อปีในเดือนกรกฎาคม สำหรับดัชนีการผลิตอยู่ที่ 53.1 ในเดือนสิงหาคม ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นมีกำหนดที่จะนำเสนอข้อมูลการสำรวจจาก Tankan ประจำไตรมาสเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางธุรกิจ คาดการณ์ว่าดัชนีผู้ผลิตขนาดใหญ่จะอยู่ที่ +1 โดยลดลงมาจาก +7 ในช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้ ในขณะที่แนวโน้มนี้คาดการณ์ว่า จะลดลงไปเหลือที่ 0 จากเดิมที่ +7 ดัชนี capex ของอุตสาหกรรมทั้งหมดเพิ่มขึ้นมา 7.0% ในรอบปี ซึ่งลดลงมาจากเดิม 7.4% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้ ประเทศญี่ปุ่นยังคงพบกับข้อมูลตัวเลขการว่างงานในเดือนสิงหาคม และตัวเลขสุดท้ายของเดือนกันยายน เกี่ยวกับดัชนี PMI ของภาคการผลิตจาก Nikkei คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 2.3% จากเดิมที่ 2.2% ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่อัตราการจ้างงานต่อผู้สมัครยังทรงตัวอยู่ที่ 1.59 สำหรับข้อมูลก่อนหน้านี้ของดัชนี PMI ภาคการผลิตคือ 48.9 ประเทศอินโดนีเซียจะนำเสนอข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของเดือนกันยายน โดยในเดือนสิงหาคมพบว่า ราคาผู้บริโภคโดยรวมอยู่ที่ 0.1% ต่อเดือน และอีก 3.5% ต่อปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.3% ต่อปี ประเทศฟิลิปปินส์จะนำเสนอข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับราคาผู้ผลิตของเดือนสิงหาคม โดยในเดือนกรกฎาคมพบว่า ราคาลดลงไป 0.4% ในเดือนนี้ และเพิ่มขึ้นมาอีกเป็น 1.1% ต่อปี หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีกำหนดจะพบกับข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตล่าสุดจากสถาบัน IHS รวมทั้งประเทศอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, พม่า, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม ตลาดในประเทศจีน และฮ่องกงปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ ฮ่องกงจะเปิดทำการในวันพุธ ขณะที่จีนจะปิดทำการจนถึงวันที่ 8 เดือนตุลาคม

[Aaron]

ดัชนีชี้นำของประเทศออสเตรเลียส่งสัญญาณว่าลงไปต่ำกว่าการเติบโตของแนวโน้ม

ข้อมูลจากสถาบัน Westpac ที่นำเสนอข้อมูลออกมาในวันพุธว่า ดัชนีชี้นำของประเทศออสเตรเลีย ย้อนกลับมาสู่พื้นที่ติดลบในเดือนสิงหาคม หลังจากมีการปรับตัวดีขึ้นในช่วงสั้นๆ อัตราการเติบโตประจำปีในรอบหกเดือน เกี่ยวกับดัชนีชี้นำของ Westpac- Melbourne Institute ซึ่งแสดงถึงอัตราของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความสัมพันธ์กับแนวโน้มในรอบ 3 ถึง 9 เดือน จนถึงในอนาคต ที่ได้ลดลงไปถึง -0.35%ในรอบเดือนสิงหาคมจาก +0.01% ในเดือนกรกฎาคม ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการปรับตัวลดลงไปอย่างมาก ของอัตราการเติบโต มาจากการฉุดลงภายหลังจากตลาดหุ้น, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และ การอนุมัติที่อยู่อาศัย Westpac คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ 2% ต่อปี ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 ไปจนถึง 2.5% ในช่วงครึ่งปีหลังและ อยู่ที่ระดับ 2.5% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 คุณ Bill Evans หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบัน Westpac ออกมากล่าวจากสถานการณ์นี้ว่า เขายังคงมองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไม ธนาคารกลางควรชะลอการดำเนินการในการลดในเดือนตุลาคม ที่มองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

[Aaron]

ราคาบ้านในออสเตรเลียลดลงไปถึง 0.7% ในไตรมาสที่สอง

สำนักงานสถิติของประเทศออสเตรเลียเปิดเผยข้อมูลในวันอังคารว่า ราคาบ้านในออสเตรเลียลดลงไปถึง 0.7% ในรอบไตรมาสจนถึงไตรมาสที่สองของปี 2019 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ว่า จะลดลงไปเท่ากับ 1.1% หลังจากที่ร่วงลงมาถึง 3.0% ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า ราคาบ้านลดลงไป 7.4% ในแต่ละปี ซึ่งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากไตรมาสที่ 1 แต่ก็ตรงกับการคาดการณ์อีกครั้งว่า จะลดลงไปถึง 7.7% มูลค่ารวมของที่อยู่อาศัย ในประเทศออสเตรเลียลดลงไปเท่ากับ A $ 17,611.6m ไปเป็น A $ 6,610,590.1m ในไตรมาสนี้ สำหรับราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัย ได้ลดลงไปเท่ากับ A $ 4,400 ไปเป็น A $ 638,900 โดยจำนวนที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นมาเป็น 43,100 หลัง ไปเป็น 10,347,200หลัง