สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของออสเตรเลีย

[Aaron]

S&P ยังคงกำหนดเครดิตความน่าเชื่อถือของประเทศออสเตรเลียไว้ที่ระดับเดิม

สถาบัน S&P Global Ratings ยังคงรักษาอันดับเครดิตความน่าเชื่อของประเทศออสเตรเลียไว้ที่ 'AAA' พร้อมกับมุมมองเชิงลบ เนื่องจากทางหน่วยงานคาดว่าการขาดดุลการคลังจะยังคงเกิดขึ้นอยู่และระดับหนี้สินจะเพิ่มสูงขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า หน่วยงานกล่าวว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ทำให้ออสเตรเลียต้องพบกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการคลังอย่างรุนแรง มันส่งผลต่อพื้นที่ด้านการคลังของรัฐบาลที่ระดับ 'AAA' อย่างมาก การขาดดุลของรัฐบาลโดยทั่วไปคาดว่าจะขึ้นมาสูงสุดที่ 14% ของจีดีพีในปีงบประมาณ 2021 ก่อนหน้าที่จะลดลง และหนี้ของรัฐบาลทั่วไปสุทธิจะสูงถึงกว่า 40% ของจีดีพีภายในปีงบประมาณ 2023 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยทั่วไปของออสเตรเลียยังคงมีความน่าเชื่อถือสำหรับอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ เพราะจากสถาบันที่มีอำนาจ นโยบายการเงินที่น่าเชื่อถือและระบอบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว แนวโน้มเชิงลบแสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียกำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงทางการคลังและเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลมากกว่าเดิม

[Aaron]

รายงานข้อมูลดัชนีเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลียในวันพุธ

ในวันพุธนี้ประเทศออสเตรเลียจะพบรายงานตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจชั้นนำจากธนาคาร Westpac Bank ซึ่งเป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดัชนีในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.5% ในรอบเดือน ประเทศเกาหลีใต้จะนำเสนอตัวเลขราคาผู้ผลิตของเดือนกันยายนออกมา โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนนี้และ 0.6% ในรอบปีหลังจากเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.5% ในเดือนนี้และลดลง 0.5% ในรอบปีของเดือนสิงหาคม

[Aaron]

สภาวะและความเชื่อมั่นทางธุริจของออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้นในเดือนกันยายน

ข้อมูลจากการสำรวจของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลียได้นำเสนอข้อมูลออกมาในวันจันทร์ว่า สภาพธุรกิจและความเชื่อมั่นของออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้นในเดือนกันยายน ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเพิ่มขึ้นไปเป็น -4 จากเดิม -8 ในเดือนก่อนหน้านี้ ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในทุกอุตสาหกรรมยกเว้นแต่ด้านการเงิน บริการด้านธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ ที่ทรงตัวตามแนวเดิม ในขณะเดียวกันดัชนีสภาวะมุ่งหน้าขึ้นสูงไปยังระดับศูนย์จากเดิม -6 ในเดือนที่แล้ว สภาวะย้อนกลับสู่ระดับที่เห็นได้ในช่วงต้นปี 2020 แม้ว่าจะยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย สภาวะที่ฟื้นตัวดีขึ้นนั้นเกิดจากแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของส่วนประกอบย่อยทั้งสามอย่าง การซื้อขายและผลกำไรอยู่ในแดนบวก และดัชนีการจ้างงานปรับตัวสูงขึ้นไปยังแปดจุด แต่ยังคงอยู่ในแดนลบ คุณ Alan Oster หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกลุ่ม NAB กล่าวไว้ว่า "มันดูมีแนวโน้มที่ดีขึ้นขณะที่สภาวะและความเชื่อมั่นฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แต่สิ่งสำคัญคือต้องทราบอย่างหนึ่งคือ หลายอย่างยังคงอ่อนแอ" คุณ Oster กล่าวเสริมไว้ว่า "ด้วยคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่ยังคงติดลบ จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่การใช้กำลังการผลิตจะฟื้นตัวเต็มที่ในระยะเวลาอันใกล้นี้"

[Yellowjixn]

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของประเทศออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้นในเดือนตุลาคม หลังจากทีมีการกักกันเชื้อไวรัสโคโรน่าได้สำเร็จแล้ว ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 11.9% ไปเป็น 105.0% ในเดือนตุลาคมจากเดิมอยู่ที่ 93.8 ในเดือนกันยายน ตัวบ่งชี้นี้ได้เพิ่มขึ้นมาแล้ว 32% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา สำหรับดัชนีย่อยทางเศรษฐกิจในรอบ 12 เดือนเพิ่มขึ้น 24.2% ส่วนของรอบ 5 ปีหน้าเพิ่มขึ้นมาเป็น 14.1%

[Aaron]

รายงานจาก IHS MARKIT - ตัวเลข PMI ด้านบริการของประเทศออสเตรเลียแกว่งตัวเข้าไปยังช่วงการขยายตัว

ผลสำรวจล่าสุดจากสถาบัน IHS Markit ได้นำเสนอข้อมูลออกมาในวันจันทร์ว่าภาคบริการในประเทศออสเตรเลียเริ่มเข้าสู่เขตการขยายตัวในเดือนกันยายน โดยตัวเลข PMI ด้านบริการปรับตามฤดูกาลไปอยู่ที่ 50.8 มันเพิ่มขึ้นจาก 49.0 ในเดือนสิงหาคมและเคลื่อนตัวไปสูงกว่าแนวเส้นแบ่งเขตที่ระดับ 50 ที่แยกการขยายตัวออกจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ การไหลเวียนเข้ามาของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว แต่การจ้างงานหดตัวลงไประหว่างช่วงที่มีกำลังการผลิตสำรอง ความเชื่อมั่นทางธุรกิจหนุนตัวสูงขึ้น ภาระต้นทุนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงจากเดือนสิงหาคม ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเกี่ยวข้องกับอัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมการขนส่งสินค้าที่สูงและค่าน้ำมันที่เพิ่มกว่าเดิม ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าดัชนีแบบคอมโพสิตเพิ่มขึ้นไปเป็น 51.1 ในเดือนกันยายนจากเดิมอยู่ใน 49.4 ในเดือนสิงหาคม

[Aaron]

รายงานจาก IHS MARKIT - ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 55.4 ในเดือนกันยายน

ผลการสำรวจล่าสุดจาก IHS Markit ที่นำเสนอข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่าภาคการผลิตในประเทศออสเตรเลียยังคงขยายตัวมากกว่าเดิมในเดือนกันยายน โดยมีตัวเลข PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ 55.4 มันเพิ่มขึ้นจาก 53.6 ในเดือนสิงหาคม และขยับขึ้นไปอยู่เหนือแนวเส้นแบ่งเขตที่ระดับ 50 ซึ่งได้แยกการขยายตัวออกจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ ตำแหน่งงานและคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การจ้างงานเพิ่มปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ความเชื่อมั่นอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2019

[PatCKY.CH24]

จำนวนใบอนุญาตการก่อสร้างที่ออกในประเทศออสเตรเลียของเดือนสิงหาคมได้ลดลงไป 1.6% มันสอดคล้องกับการปรับตัวลงไปยัง 2.0% ตามการปรับตัวขึ้นมาถึง 12.0% ในเดือนกรกฎาคม หากคิดในรอบปีจะพบว่าการออกใบอนุญาตเพิ่มขึ้น 0.6% ใบอนุญาตการก่อสร้างบ้านของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 4.8% ในรอบเดือนและ 12.4% ในรอบปี

[Yellowjixn]

ภาคเอกชนของประเทศออสเตรเลียฟื้นตัวขึ้นมาในไตรมาสที่สาม หลังจากเริ่มผ่อนคลายมาตรการกักกันเชื้อไวรัสโคโรน่า ดัชนีผลผลิตแบบคอมโพสิตแบบแฟลชเพิ่มขึ้น 50.5 จากเดิมในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 49.4 การฟื้นตัวของกิจกรรมโดยทั้งหมดเกิดจากการเติบโตทางการผลิต หลังจากกิจกรรมทางธุรกิจบริการยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนสิงหาคม

[Aaron]

ราคาบ้านในประเทศออสเตรเลียลดลงในไตรมาสที่สอง

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติของออสเตรเลียได้ระบุข้อมูลออกมาในวันอังคารว่า ราคาบ้านของประเทศออสเตรเลียลดลงไปเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีของไตรมาสที่สอง ราคาบ้านลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับรอบปีในไตรมาสของเดือนมิถุนายน ที่ย้อนตัวกลับขึ้นมา 1.6% ในไตรมาสของเดือนมีนาคม นับว่าเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยที่ลดลงนำโดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในซิดนีย์ และเมลเบิร์น คุณ Andrew Tomadini หัวหน้าฝ่ายสถิติด้านราคาของ ABS กล่าวไว้ว่า "เมืองหลวงทุกแห่งนอกเหนือจากแคนเบอร์ราพบกับการลดลงของราคาอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสของเดือนมิถุนายนปี 2020" ราคาบ้านในแต่ละปีเพิ่มขึ้น 6.2% โดยเมืองหลวงทุกแห่ปรับตัวขึ้นงยกเว้นแต่เพิร์ธ และดาร์วิน คุณ Tomadini กล่าวไว้ว่า "จำนวนธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยลดลไปงอย่างมากใน 8 เมืองหลวงในช่วงไตรมาสมิถุนายนปี 2020 เนื่องจากผลกระทบของเชื้อไวรัส COVID-19 ในตลาดอสังหาริมทรัพย์"

[Yellowjixn]

อัตราการว่างงานของประเทศออสเตรเลียปรับตัวฤดูกาลอยู่ที่ 6.8% โดยไม่ตรงกับการคาดการณ์ว่าอาจอยู่ที่ระดับ 7.7% และลดลงมาจาก 7.5% ในเดือนกรกฎาคม เศรษฐกิจของออสเตรเลียเพิ่มเงินเข้ามา 111,000ตำแหน่งในเดือนที่แล้วเป็น 12,583,400ตำแหน่ง งานประจำเพิ่มขึ้น 36,200ตำแหน่งเป็น 8,584,500 ตำแหน่ง ส่วนงานนอกเวลาเพิ่มขึ้น 74,800ตำแหน่งเป็น 3,998m900ตำแหน่ง นอกจากนั้นอัตราการมีส่วนร่วมอยู่ที่ 64.8%