สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของสหรัฐอเมริกา

[Yellowjixn]

ประธานธนาคารกลางที่เซนต์หลุยส์ ได้ออกมารายงานว่า ตลาดเกิดใหม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นของทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ในช่วงเดือนธันวาคมของปีนี้ แม้ว่าตลาดในประเทศที่กำลังพัฒนาอาจจะต้องแบกรับความกดดันอยู่บ้าง เพราะมันเป็นผลที่มาจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และประเทศจีนนั้นเอง

[Yellowjixn]

หนี้สาธารณะของสหรัฐอเมริกา ปรับตัวขึ้นสูงมาเป้นประวัติการณ์ โดยหลายฝ่ายคาดว่า ภายในปี 2020 หนี้อาจจะสูงถึง 1ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะมากกว่าการดำรงตำแหน่งของนายบาร์รัค โอปามา โดยนายทรัพม์อ้างว่า เงินที่ได้จากการเก้บภาษีต่างๆ จะนำมาช่วยในการจ่ายหนี้สาธารณะออกไป ซึ่งส่วนหนึ่งปริมาณที่สูงของหนี้ก็มาจากการใช้จ่ายที่ไม่สามารถควบคุมได้ของเขานั้นเอง

[Yellowjixn]

หลังจากที่ความตึงเครียดทางการค้ายังเกิดขึ้นอยู่นั้น มันก็ได้ส่งผลไปยังธุรกิจการค้า หรืออุตสาหกรรม บางส่วนแล้ว อย่างเช่น การผลิตรถยนต์ bmw เพราะว่าฐานการผลิตได้อยู่ในสหรัฐอเมริกา และตลาดที่ใหญ่ที่สุดในการจำหน่ายได้อยู่ในประเทศจีน

[Yellowjixn]

ทางเฟดได้ตัดสินใจในการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาภายในเดือนนี้อย่างแน่นอน แม้ว่า นายทรัพย์จะไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการเช่นนี้ก็ตามที ประเด็นนี้กลายมาเป็นศูนย์กลางความสนใจในตลาดการเงินระดับโลกเลยทีเดียว

[PatCKY.CH24]

มาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศรัสเซียกลับไม่ได้ผล แม้ว่าเงินรูเบิลจะได้รับแรงปะทะอย่างมากมายจากทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีการฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ รวมทั้งยังมีส่วนได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวของราคาน้ำมันอีกด้วย จึงทำให้เงินรูเบิลได้พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นมันจึงอาจแสดงให้เห็นว่า การคว่ำบาตรนั้นยิ่งทำให้เงินรูเบิลอ่อนค่าลง แล้วก็ยิ่งช่วยในการปรับตัวขึ้นมาอีกด้วย

[Pipat]

ทองคำปรับตัวลง แม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงตามๆกัน

ราคาทองคำปรับตัวลดลงไป ในวันศุกร์ โดยต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ แม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่อื่นๆ เนื่องจากความกังวที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับสงครามการค้าของประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา ตลาดยังคงแปรผรวนอยู่กับมุมมองที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน จะไม่ส่งผลร้ายต่อการเติบโตน้อยกว่าความกังวลแรก การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ยังเกิดขึ้นระหว่างที่มีการคาดการณ์ที่ว่า ทางประเทศจีนจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ เพื่อไปกระตุ้นเศรษฐกิจในการเผชิญหน้ากับสงสงครามการค้า ราคาทองคำในตลาด ปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 1,205.17 ดอลลาร์ แต่ก็ยังคงอยู่ในช่วงที่มีการทำกำไรซึ่งมากกว่า 1% ในสัปดาห์นี้ ดังนั้น สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของสหรัฐอเมริกา ได้ปรับตัวลงไป0.13% ไปอยู่ใน 1,209.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนได้ทำการซื้อ เงินดอลลาร์เมื่อเร็วๆมานี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราภาษีจะช่วยเพิ่มดุลการค้าของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้า ได้ลดลงไป ทางด้านเงินดอลลาร์เองก็ได้รับการปรับตัวลดลงไปมากที่สุดประจำสัปดาห์ ในรอบ 7 เดือน ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาจะมีการประชุมกันในสัปดาห์หน้า พร้อมกันกับนักเศรษฐกิจที่ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางแห่งสหรัฐจะปรับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงขึ้นไป 25 จุด ในขณะที่ จากความไม่แน่นอนด้านในด้านการค้าที่เกิดขึ้นในช่วงที่จะเข้าใกล้การเลื่อกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกา ก็มีคำถามออกมาอย่างมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับการปรับอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต

[PatCKY.CH24]

หลังจากที่นายทรัพม์ออกมาเคลื่อนไหวต่อการใช้ภาษีต่อสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ที่ตามมาด้วยผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก แต่ในทางกลับกัน มันกลับช่วยกระตุ้นการบริโภค, การเร่งอัตราการผลิต, การเพิ่มคำสั่งการผลิต และการขนส่ง ให้เพิ่มมากขึ้นในสองประเทศมหาอำนาจนี้ ก่อนหน้าที่จะถึงกำหนดการใช้งานภาษี

[Yellowjixn]

การดำเนินการด้านนโยบายต่างๆจากนายทรัมพ์ ได้ไปกระตุ้นให้หลายประเทศเริ่มหาทางร่วมมือกันเพื่อยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน, ในยุโรป หรือแม้กระทั้งประเทศรัสเซียอีกด้วย ที่โดนมาตรการคว่ำบาตรที่ทำให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนตัวลงไป แต่รัฐบาลของประเทศก็สามารถรับมือโดยใช้ประเทศจากการอ่อนค่าได้อย่างเต็มที่ผ่านทางการจัดสรรงบประมาณ ที่มาจากการติดต่อค้าขายต่างๆกับต่างประเทศนั้นเอง

[PatCKY.CH24]

ประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ไม่มีอะไรน่าจับตามองระหว่างอเมริกาและรัสเซียอีกแล้ว เพราะว่า ประเทศรัสเซียไม่อยู่เฉยต่อการคว่ำบาตรครั้งใหม่ จึงออกมาเพิ่มทองคำสำรองขึ้นอย่างมาก จนแซงหน้าประเทศจีนและอเมริกาไปแล้ว แน่นอนว่าบางที ประเทศรัสเซียอาจใช้ทองคำเพื่อเป็นเครื่องมือในการที่ตนเองจะประกาศยกเลิกการใช้เงินดอลลาร์ต่อไปในอนาคต

[Pipat]

การขายบ้านที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯที่ไม่คาดคิดลดลง 0.7% ในเดือนกรกฎาคม

ยอดขายบ้านเดิมในสหรัฐลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคมตามรายงานจาก National Realtors of Realtors เมื่อวันพุธที่ผ่านมา NAR กล่าวว่ายอดขายบ้านที่มีอยู่ลดลงร้อยละ 0.7 ต่อปีอัตรา 5.34 ล้านในเดือนกรกฎาคมหลังจากที่ลดลง 0.6 เปอร์เซ็นต์ในอัตรา 5.38 ล้านในเดือนมิถุนายน ยอดขายบ้านที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้นักเศรษฐศาสตร์ประหลาดใจที่คาดว่ายอดขายบ้านจะเพิ่มขึ้น 0.6% ยอดขายบ้านที่มีอยู่ลดลงอีกครั้งในเดือนก่อนหน้าซึ่งลดลงอย่างมากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีพ. ศ. 2562 ที่ 5.21 ล้านราย "นายอเรนซ์ยุนหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAR กล่าวว่า" เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "ผู้ซื้อที่ซื้อไปมากเกินไปอาจถูกหาราคาหรือตัดสินใจที่จะเลื่อนการค้นหาไปจนกว่าบ้านอื่น ๆ ในช่วงราคาของพวกเขาจะเข้าสู่ตลาด" Nar กล่าวว่าราคาที่อยู่อาศัยเฉลี่ยมัธยฐานสำหรับประเภทที่อยู่อาศัยทั้งหมดในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 269,600 ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 4.5% จากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาสินค้าคงคลังที่อยู่อาศัยทั้งหมด ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมลดลง 0.5% เหลือ 1.92 ล้านบ้านที่มีอยู่แล้วสำหรับการขายซึ่งคิดเป็น 4.3 เดือน ของอุปทานที่ก้าวขายปัจจุบัน ในวันพฤหัสบดีที่กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดที่จะปล่อยรายงานแยกต่างหากเกี่ยวกับยอดขายบ้านใหม่ในเดือนกรกฎาคม ยอดขายบ้านใหม่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2%