สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของสหรัฐอเมริกา

[PatCKY.CH24]

จากความคืบหน้าที่ดีเกี่ยวกับการเจรจาด้านการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน นายทรัมป์จึงตัดสินใจที่จะยืดระยะเวลาในการกำหนดภาษีต่อสินค้านำเข้าของประเทศจีนออกไป โดยมันยังรวมถึงด้านทรัพย์สินทางปัญญา, เทคโนโลยี, การเกษตรและการบริหาร

[Yellowjixn]

หลายรัฐออกมาแจ้งฟ้องต่อนาทรัมป์ เกี่ยวกับการสร้างกำแพงที่ชายแดนเม็กซิโกของเขา เพราะว่าเขาได้ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินในการใช้เงินทุนที่ทางสภาคองเกรสจัดเตรียมไว้ให้ โดยทางรัฐต่างๆ ได้มองว่ามันเป็นการใช้อำนาจที่ผิดจากการที่เขาจัดสรรเงินทุนแต่เพียงผู้เดียว เพราะมันควรเป็นการช่วยเหลือรัฐต่างๆ และอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ

[Pipat]

เงินดอลลาร์ชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ

เงินดอลลาร์สหรัฐ มีผลการดำเนินการที่ชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เมื่อวันจันทร์ เนื่องจากการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับ การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ที่เพิ่มขึ้นมา หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คุณ Donald Trump ออกมากล่าวว่า เขาจะขยายกำหนดระยะเวลาออกไป สำหรับการเจรจาการค้าให้เกินวันที่ 1 เดือน มีนาคม นาย Trump กล่าวว่า เขาจะชะลอกำหนดระยะเวลา สำหรับการเก็บภาษีเพิ่มเติมออกไป ในสินค้าของประเทศจีน ซึ่งแต่เดิมได้กำหนดไว้ ให้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 เดือนมีนาคม หากพูดถึง การเจรจาด้านการค้า กำลังจะพบกับความคืบหน้า อย่างมากสำคัญในหลายส่วนที่ที่มีความแตกแต่างกัน รวมทั้ง การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา, การถ่ายโอนทางเทคโนโลยี, การเกษตร, บริการและสกุลเงิน โดยนาย Trump ระบุว่า การประชุมที่น่าจะเกิดขึ้นกับประธานาธิบดีของประเทศจีน คุณ Xi Jinping จะต้องบรรลุข้อตกลงสุดท้ายให้ได้ ดัชนีเงินดอลลาร์ ซึ่งเปิดตัวขึ้นมาที่ระดับ 96.50 และแกว่งตัวไปอยู่ ระหว่าง 96.32 และ 96.60 และ มันยังเป็นครั้งสุดท้ายที่มีการปรับตัวอยู่ราวๆ ระดับที่ 96.40 ซึ่งลดลงมาน้อยกว่า 0.1% จากการปิดตัวก่อนหน้านี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีการซื้อขายอยู่ที่ 1.1365 ดอลลาร์ โดยเสียไปราว 0.26% เมื่อเทียบกับยูโร และเมื่อเทียบกับเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ ก็จะพบว่า ยังอ่อนแรงอยู่เช่นกัน โดยเงินปอนด์ได้พไปอยู่ที่ระดับ 1.3103 ดอลลาร์ หลังจากที่มีการปิดตัวอยู่ที่ 1.3055 ดอลลาร์ ในวันศุกร์ รัฐสภาของอังกฤษ มีกำหนดของการลงคะแนนเสียง สำหรับยืดระยะการตกลงด้าน Brexit ออกไปที่อาจเกิดขึ้นในวันพุธ แม้ว่าจะมีการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการลงประชามติอีกครั้ง เพื่อเป็นการรวมรวมโมเมนตัมเพิ่มขึ้น เงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวขึ้นมา เมื่อเทียบกับเงินเยนของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้นมาประมาณ 0.35% โดยอยู่ที่ 111.10 เยน และก็ยังเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ 110.58 เงินสำหรับเงินดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาสู่ระดับที่ 111.24 เยน ก่อนหน้าที่จะได้กำไรได้บ้าง เงินดอลลาร์สหรัฐ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยที่มีการซื้อขายอยู่ที่ 1.0004 ฟรังก์ต่อดอลลาร์ เงินดอลลาร์แคนาดา ลดลงไปประมาณ 0.10 เซนต์ โดยปิดตัวอยู่ที่ 76 เซ็นต์สหรัฐอเมริกา จากการรายงานข่าวทางเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาพบว่า ข้อมูลที่นำเสนอมมาจากกระทรวงพาณิชย์ แสดงให้เห็นว่า สินค้าคงคลังในการขายส่ง เพิ่มขึ้นมา มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในรอบเดือนธันวาคม รายงานได้ระบุข้อมูลไว้ว่า ปริมาณสินค้าคงคลังของการขายส่ง เพิ่มขึ้นมาถึงระดับที่ 1.1% ในเดือนธันวาคม หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึงระดับที่ 0.4% ในเดือนพฤศจิกายน ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า สินค้าคงเหลืออาจจะเพิ่มขึ้นมาถึง 0.3% ซึ่งตรงกับการเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีการรายงานของรอบเดือนก่อนหน้านี้ ปริมาณสินค้าคงคลังของการขายส่ง ที่เพิ่มขึ้นไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น เป็นผลมาจากสินค้าคงทน ปรับตัวขึ้นมาถึงระดับที่ 1.5% ในเดือนธันวาคม หลังจากที่เพิ่มขึ้นมาถึง 0.7% ในเดือนพฤศจิกายน

[Pipat]

เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัวดี เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น แม้ว่าจะมีข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก

เงินดอลลาร์สหรัฐ ยังคงทรงตัวดี เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในวันพฤหัสบดี แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจชุดล่าสุดจะออกมามีผลที่ค่อนข้างน่าผิดหวังเล็กน้อย ผลจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม ที่ทำให้เกิดการเพิ่มโอกาสของการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมา ในช่วงระหว่างปีนี้ ก็ได้ช่วยให้เงินดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในระดับที่ดีกว่าเดิม เมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินอื่นๆ ดัชนีของเงินดอลลาร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณ 0.11% ในระดับที่ 96.62 หลังจากที่ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับที่ 96.66 จากที่เคยอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 96.36 เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นประมาณ 0.12% เมื่อเทียบกับปอนด์ของอังกฤษ โดยยังมีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับการดำเนินการด้าน Brexit ที่ส่งผลต่อสกุลเงินของสหราชอาณาจักรอังกฤษอีกด้วย นอกจากนั้นเงินดอลลาร์สหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับยูโร โดยเงินยูโรได้ไปอยู่ที่ 1.1335ดอลลาร์ เงินเยนของประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณ 0.13% มีการซื้อขายที่ระดับ 110.71 ต่อดอลลาร์ หลังจากมีการปิดตัวอยู่ที่ระดับ 110.85 ต่อดอลลาร์ เงินดอลลาร์แคนาดา กำลังมีการซื้อขายที่อ่อนแอ เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ช่วงหลัง มีการเพิ่มขึ้นมาประมาณ 0.35% ในระดับที่ 1.3224 ในการรายงานข่าวทางเศรษฐกิจพบว่า มีการรายงานจากกระทรวงแรงงานที่ออกมากล่าวว่า การขอรับสวัสดิการจากการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐอเมริกา ลดลงไปมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ในช่วงสุดสัปดาห์ของวันที่ 16 เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งลดลงไปเหลือ 216,000 ราย ซึ่งลดลงไป 23,000 ราย จากระดับที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่239,000ราย ส่วนนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผู้ขอรับสวัสดิการจากการว่างงานจะลดลงไป 229,000 ราย อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมาระบุว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่ 1.2% ในเดือนธันวาคม หลังจากที่เคยปรับตัวสูงขึ้นมาถึง 1% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่า คำสั่งซื้อสินค้าคงทนอาจจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.5% เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นมาในระดับที่ 0.7% ที่ได้รับรายงานออกมาในรอบเดือนก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกัน การรายงานจากธนาคารกลางแห่งฟิลาเดลเฟีย ที่ออกมากล่าวว่า กิจกรรมการผลิตในฟิลาเดลเฟีย หดตัวลงไปเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี2016 ที่ผ่านมา ทางธนาคารกลางแห่งฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า ดัชนีของกิจกรรมการผลิตในปัจจุบัน ในภูมิภาคนี้ ร่วงลงไปถึง 4.1 ในเดือนกุมภาพันธ์ จากที่อยู่ในระดับที่ดีถึง 17.0 ในเดือนมกราคม จากการที่มีข้อมูลที่ติดลบออกมา มันก็แสดงถึงการหดตัว ดังนั้นคาดการณ์ไว้ว่า ดัชนีอาจจะลดระดับลงมาสู่ระดับที่ 14.0

[Pipat]

ราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา ยังคงไม่มีเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในรอบเดือนมกราคม

อ้างอิงจากการรายงานของกระทรวงแรงงานที่ได้ระบุข้อมูลออกมาในวันพุธว่า ราคาผู้บริโภคยังคงไม่มีเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ภายในรอบเดือนมกราคม กระทรวงแรงงานได้ออกมากล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในรอบเดือนมกราคม ซึ่งตรงตามข้อมูลตัวเลขที่ได้รับการแก้ไขมาแล้วของรอบเดือนธันวาคม ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่า ราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.1% ราคาผู้บริโภคหลัก ปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ในระดับ 0.2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ห้า หากไม่คิดคำนวณรวมกับราคาอาหารและพลังงาน สำหรับการปรับตัวขึ้นมา ของราคาผู้บริโภคหลักนั้น ได้ตรงกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์อีกด้วย

[Yellowjixn]

จากข้อมูลการจ้างงาน และการสร้างงานในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทางเฟดจึงมองว่า เศรษฐกิจของอเมริกาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ดังนั้นควรมีการปรับอัตราดอกเบี้ย โดยอาจจะมีจำนวนถึง 4 ครั้ง

[Pipat]

Trump กลับลำ!!! ลั่น ไม่เข้าพบจีน ก่อนถึงกำหนดเดือนมี.ค.

จากข่าว การนัดหมายสหรัฐเตรียมเข้าเจรจากับจีน ปลายเดือน ก.พ. นี้ มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก เมื่อวาน (วันพฤหัสบดี ที่ 8 กุมภาพันธ์) Trump ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะไม่เข้าพบกับจีนก่อนที่จะถึงกำหนดในวันที่ 2 มีนาคม

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเตือนว่าขณะนี้ สถานะของการประชุม ยังไม่แน่นอน สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก หลังจากที่คณะผู้แทนการค้าเดินทางไปประชุมที่ปักกิ่งในสัปดาห์หน้า

Larry Kudlow ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าเขาคาดหวังว่า Xi และ Trumpจะพบกัน แต่เมื่อไหร่และที่ไหน นั้นก็คงต้องดูสถานการณ์ก่อน

ตัวแทนการค้าของสหรัฐอเมริกา Robert Lighthizer ได้กล่าวว่าเขา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Steven Mnuchin อาจจะให้คำแนะนำแก่ Trump ว่าควรเห็นด้วยกับการประชุม หลังจากที่ทั้งสองกลับมา จากการเดินทางไปจีน ในสัปดาห์หน้า ตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการเจรจาตั้งแต่วันจันทร์โดย Lighthizer และ Mnuchin จะเข้าร่วมในสัปดาห์ต่อไป

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงนั้น คาดว่าจีนจะต้องยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรทั้งหมด Lighthizer กล่าว แต่เขาปฏิเสธที่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากข้อตกลงยังไม่สำเร็จภายในวันที่ 2 มีนาคม

สหรัฐฯอาจพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น “สแน็ปอิน” ซึ่งมีการยกเลิกภาษีศุลกากรบางรายการ แต่อาจได้รับการแนะนำอีกครั้งหากจีนไม่ปฏิบัติตาม

ที่มา: https://www.thinvest.in.th/%E0%B8%82...%E0%B8%B5.html

[Pipat]

สหรัฐฯ เผย เจรจาเปลี่ยนกฎ WTO หนุนจีน ไม่ช่วยอะไร

การเจรจาปรับเปลี่ยนกฎของ WTO เพื่อผลักดันการค้าของจีน ส่วนใหญ่เป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ในรายงานประจำปีต่อสภาคองเกรส เรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบ WTO ของจีน สำนักงานตัวแทนการค้าของสหรัฐฯกล่าวว่า “ไม่ควรคาดหวังต่อการประสบผลสำเร็จในการเจรจา ต่อรองกฎ WTO ใหม่ ที่จะจำกัดแนวทางของจีนทีมีต่อเศรษฐกิจและการค้าในปัจจุบัน”

ความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน ก่อนที่จะถึงกำหนดในวันที่ 2 มีนาคม มีเพียงเล็กน้อย เมื่อสหรัฐฯ ประกาศว่า จะเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 25% จาก 10%

พันธมิตรของสหรัฐอเมริกาบางราย รวมถึงญี่ปุ่น แคนาดา และสหภาพยุโรป มีการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง และความทันสมัยที่อาจเกิดขึ้นครั้งแรก ของ WTO นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1995

แต่การเปลี่ยนแปลงกฎของ WTO จะต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกประเทศสมาชิก 164 ประเทศ ซึ่งการค้าและความพยายามที่ผ่านมาไม่ประสบผลสำเร็จ USTR กล่าวว่า “ไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง” ที่จีนจะเห็นด้วยกับกฎระเบียบใหม่ ที่กำหนดเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติทางการค้าและระบบเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่ของจีนพบกับคู่ค้าสหรัฐฯ ในวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหารือเกี่ยวกับความกังวลเรื่องการค้าและการดำเนินธุรกิจของจีน เหล่านี้รวมถึงประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับเงินอุดหนุนอุตสาหกรรม การเข้าถึงตลาด และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา

การพูดคุยครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้า โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กล่าวว่าเขาจะได้พบกับประธานาธิบดี Xi Jinping ทั้งสองประเทศมีส่วนร่วมในการต่อสู้ด้านภาษีตั้งแต่กลางปี 2018 เมื่อวอชิงตันเผชิญหน้ากับราคาภาษีของสินค้าจีน และพบกับการตอบโต้จากปักกิ่ง โดยข้อพิพาทที่ทวีความรุนแรงของทั้งสองประเทศครั้งนี้ มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก

[Pipat]

เงินดอลลาร์สหรัฐลดลง หลังจากที่มีการลดลงของอัตราเงินเฟ้อในผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา

เงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักที่สำคัญอื่นๆในเซสชั่นยุโรป ในวันศุกร์ หลังจากที่มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคในประเทศลดลงไปในเดือนธันวาคม ซึ่งเกิดมาจากการลดลงของราคาน้ำมันเบนซิน ข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน แสดงให้เห็นว่า ราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา ปรับตัวลงเล็กน้อย ในรอบเดือนธันวาคม ดัชนีราคาผู้บริโภค ลดระดับลงไปถึง 0.1% ในเดือนธันวาคม หลังจากที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในรอบเดือนพฤศจิกายน ยังมีการลดระดับลงของราคาผู้บริโภค ที่ตรงกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ หากไม่คิดคำนวณรวมกับราคาอาหารและพลังงานจะพบได้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคหลัก ได้เพิ่มขึ้นมาเท่ากับ 0.2% ในเดือนธันวาคม ซึ่งตรงกับการเพิ่มขึ้นที่เคยพบในช่วงทั้งสองเดือนก่อนหน้าและ ตรงตามการคาดการณ์อีกด้วย ข้อมูลยังช่วยสร้างความหวังขึ้นมาว่า ทางเฟดจะหยุดการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ตามที่มีการนำเสนอความเห็นจากเจ้าหน้าที่ของเฟดจากประธาน Jerome Powell ในช่วงออกมาแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คุณ Powell คาดการณ์ว่าจะไม่มีภาวะการถดถอยในปี 2019 และ ยังเน้นย้ำว่าต้องอดทน ในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป คุณ Richard Clarida รองประธานเฟด ยังกล่าวอีกว่า เฟดอาจจะมีท่าทีในการรอดู อัตราดอกเบี้ยก่อน ถ้าหากแรงปะทะต่อเศรษฐกิจจาก ตลาดการเงินหรือ การเติบโตในระดับโลกยังคงเกิดขึ้นอยู่ ดอลลาร์อ่อนตัวลงไปยัง 108.15 เมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งลดลงมาจากเดิมที่ระดับสูงสุดใน 108.47 ในเวลา19.45 น. ตามเวลาแบบ ET โดยทั้งคู่สกุลเงิน มีมูลค่าอยู่ที่ 108.43 เมื่อมันได้ไปบรรลุสัญญาในวันพฤหัสบดี ในอีกด้านหนึ่ง ระดับที่106.00 อาจถูกมองว่าเป็นแนวรับในระดับถัดไปของเงินดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง แสดงให้เห็นว่าประเทศญี่ปุ่น มีการเกินดุลในบัญชีเดินสะพัด มูลค่าอยู่ที่ 757.2 พันล้านเยนในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ว่าจะมีการเกินดุลอยู่ที่ 566.3 พันล้านเยนและ ยังลดลงไปจากเดิมที่ 1,309.9 พันล้านเยนในเดือนตุลาคม ดุลการค้า แสดงให้เห็นถึงการขาดดุลถึง 559.1 พันล้านเยน เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ว่าจะมีการขาดดุลอยู่ที่ 612.6 พันล้านเยน หลังจากที่มีการขาดดุลถึง 321.7 พันล้านเยนในเดือนก่อนหน้านี้ เงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลงมายัง 0.9814 เมื่อเทียบกับสกุลเงินฟรังก์ หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.9843 ในเวลา 19.00 น. ตามเวลาแบบ ET ในระดับการปิดตัวของเมื่อวานนี้ ทั้งคู่สกุลเงินมีมูลค่าอยู่ที่ 0.9843 สำหรับแนวรับที่น่าเป็นไปได้ ของเงินดอลลาร์สหรัฐ ระดับถัดไปจะไปอยู่ที่ระดับ 0.97 เงินดอลลาร์สหรัฐ ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 1.1543 เมื่อเทียบกับเงินยูโร ที่มีการปรับตัวมาจากระดับสูงที่ระดับ 1.1496 ที่พบในเวลา 17:45 น. ตามเวลาแบบ ET โดยทั้งคู่สกุลเงิน เสร็จสิ้นการซื้อขายของเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1.1500 นอกจากนั้นเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจถูกมองหาว่ากำลังหาแนวรับอยู่รอบๆ ระดับที่ 1.18 เงินดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวอยู่ที่เดิมเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากที่ร่วงลงไปยังระดับต่ำสุดในรอบ เดือนกว่าที่ระดับ 1.2850 ในเวลา 5:45 น. ตามเวลาแบบ ET ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐได้สร้างจุดสูงสุดในรอบ 2 วันที่ระดับ 1.2710 เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ในช่วงแรกของเซสชั่นยุโรป นอกจากนั้นคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ จะมีมูลค่าอยู่ที่ 1.2744 ในระดับการปิดตัวของเมื่อวานนี้ ข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ฟื้นตัวดีขึ้น เป็นเดือนที่สองติดต่อกันในรอบเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเกิดมาจากการบริการและ การเติบโตด้านการก่อสร้างแลัว ยังมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์อีกด้วย ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ปรับตัวขึ้นมาถึง 0.2% จากเดือนตุลาคม ที่เศรษฐกิจเคยมีการขยายตัวขึ้นมาถึง 0.1% ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ไว้ว่า อัตราการเติบโต จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเดือนกันยายน จีดีพีอาจจะลดระดับลง ในทางกลับกัน เงินดอลลาร์สหรัฐ ดีดตัวออกมาจาก 0.7197 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและ 0.6816 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับต่ำสุดในช่วงแรกของรอบ 4 สัปดาห์ที่ 0.7235 และในระดับต่ำที่มากกว่า 3 สัปดาห์ที่ 0.6844 ตามลำดับ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มที่จะไปทดสอบกับแนวต้านราวๆ ระดับที่ 0.70 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและ และอีก0.66 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ เงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นไปยังระดับสูงสุดในรอบ 2 วันที่ระดับ 1.3269 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์แคนาดา หลังจากที่เคยมีการปรับตัวร่วงลงไปยังระดับต่ำในรอบ 2 วันที่ระดับ 1.3183 ในเวลา 16:15 น. ตามเวลาแบบ ET ส่วนแนวต้านที่สำคัญถัดไปของเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจจะสามารถพบได้ในระดับที่ 1.34 งบประมาณรายเดือนของสหรัฐอเมริกา ในรอบเดือนธันวาคม จะนำเสนอข้อมูลออกมาในช่วงเซสชั่นของนิวยอร์ก

[Pipat]

พันธบัตรยกคงมีการยกตัวเกิดขึ้นระหว่างที่ยังมีการเจรจาด้านค้า

หลังจากที่ได้ลดลงไปในช่วงเซสชั่นก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์ก็พบกับช่วงขาลง ในระหว่างวันที่มีการซื้อขายในวันอังคาร ราคาพันธบัตรปรับตัวลง ในช่วงแรกในเซสชั่น และยังคงอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน มันจึงเป็นผลทำให้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุสิบปี ที่เคลื่อนไหวตรงข้ามกับราคา ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.4 จุดที่ระดับ 2.716% จากการเพิ่มขึ้นในรอบวันนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุสิบปี ปิดตัวสูงขึ้นเป็นเซสชั่นที่สามติดต่อกัน หลังจากที่สิ้นสุดการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดี ไปในระดับการปิดตัวที่ต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งปี การมองโลกในแง่ดี เกี่ยวกับการเจรจาด้านค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและ ประเทศจีน ทำให้เกิดความอ่อนแออย่างต่อเนื่องในส่วนขอพันธบัตร ในช่วงที่มีการประชุมวันที่สองระหว่างสหรัฐอเมริกาและ เจ้าหน้าที่ของจีน การเจรจาในวันที่สอง มาพร้อมกับการมาเยี่ยมเยือนโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าจากผู้นำของประเทศเกาหลีเหนือคุณ Kim Jong Un ทางด้านนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า ประเทศจีนอาจจะใช้ การมาเยี่ยมเยือนของผู้นำ Kim เป็ยแนวทางต่อการเจรจาต่อรองในการค้า จากการโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์เมื่อเช้านี้ ทางประธานาธิบดี Donald Trump กล่าวว่า "การเจรจากับประเทศจีนไปได้ดีมาก!" ในช่วงกลางคืนต่อมา นาย Trump มีกำหนดจะมีการนำเสนอปัญหาระดับชาติออกมา โดยเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารของเขาอธิบายว่าเป็น "วิกฤติ" ที่ชายแดนภาคใต้ นาย Trump ได้พยายามหลายครั้งในการดึงดูดความสนใจของสาธารณชน ต่อปัญหาที่เกิดจากผู้อพยพที่ผิดกฎหมาย ในช่วงที่ยังหาทางออกต่อการระดมทุนสำหรับการสร้างกำแพงชายแดนที่ยังขัดแย้งไม่ได้ ประธานาธิบดีออกมานำเสนอว่า เขาอาจจะหาทางอ้อมต่อสภาคองเกรส และจะหาทางรับเงินทุนเพื่อการสร้างกำแพง โดยจะประกาศถึง สถานการณ์ฉุกเฉินระดบัชาติในชายแดน จากปัญหาระดับชาติตามการนำเสนอของนาย Trump อาจจะ "เต็มไปด้วยความไม่พอใจและข้อมูลที่บิดเบือน" ทางด้านผู้นำพรรคเดโมแครต เรียกร้องเวลาออกอากาศที่เท่าเทียมกัน เพื่อรับกับประเด็นของประธานาธิบดี โฆษกของสภา คุณ Nancy Pelosi, D-Calif. และ Chuck Schumer ผู้นำในเสียงส่วนน้อยของวุฒิสภาชิก, D-N.Y ได้ออกมาแถลงการณ์ร่วม หลังจากที่มีการกระจายข่าวและ นำเสนอผ่านทางการออกอากาศเคเบิลรายใหญ่ ที่ได้ตกลงกันว่าจะออกอากาศที่การถกปัญหาของนาย Trump ในตลาดตราสารหนี้จะพบว่า พันธบัตรยังคงขยายต่อการยกตัว ที่เคยพบในช่วงสองเซสชั่นก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นแล้วอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปีในระดับมาตรฐาน ที่เคลื่อนไหวตรงข้ามกับราคาของมันเอง ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 3.4 จุดที่ระดับ 2.716% การซื้อขายในวันพุธ อาจจะได้รับผลกระทบจาก ปฏิกิริยาตอบโต้จาก เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหลายคน รวมถึงการเปิดเผยผลการประชุมด้านนโยบายการเงินล่าสุดของทางเฟดออกมา