สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของสหรัฐอเมริกา

[Pipat]

เงินดอลลาร์มีการอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลักส่วนใหญ่ในวันพฤหัสบดี หลังจากดีดตัวขึ้นในเซสชั่นก่อนหน้านี้และฟื้นตัวขึ้นมาบางส่วนจากที่ร่วงไปเมื่อต้นสัปดาห์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซึ่งไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษอยู่ที่ 105.01 ในวันศุกร์ โดยลดลงสู่ระดับ 102.66 ในวันนี้ก่อนที่จะฟื้นตัวเล็กน้อยมาที่ 102.84 ซึ่งยังคงลงมาเกือบ 1% จากการปิดตลาดครั้งก่อน ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ 1.0587 ดอลลาร์จาก 1.0465 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินยูโร เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ โดยไปอยู่ที่ 1.2480 ดอลลาร์ต่อหน่วยเมื่อเทียบกับ 1.2344 ดอลลาร์ในวันพุธ ค่าเงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินของญี่ปุ่น โดยอยู่ที่ 127.77 เยนซึ่งน้อยกว่าราคาปิดเมื่อวานที่ 128.23 เยนเกือบ 0.4% ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานระบุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นไปเป็น 218,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 พฤษภาคม โดยเพิ่มขึ้น 21,000 รายจากระดับที่ปรับแล้วในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 197,000 ราย นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงเหลือ 200,000 รายจาก 203,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางแห่งฟิลาเดลเฟียเปิดเผยรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการเติบโตของกิจกรรมการผลิตในเขตฟิลาเดลเฟียแสดงให้เห็นการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤษภาคม เฟดแห่งฟิลาเดลเฟียกล่าวว่าดัชนีกิจกรรมทั่วไปในปัจจุบันลดลงไปเป็น 2.6 ในเดือนพฤษภาคมจากเดิม 17.6 ในเดือนเมษายนซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบสองปี รายงานที่นำเสนอโดยสำนักงาน National Association of Realtors แสดงให้เห็นว่ายอดขายบ้านที่มีอยู่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนเมษายน โดยร่วงลงถึง 2.4% สู่ระดับ 5.61 ล้านต่อปีในเดือนเมษายน หลังจากที่ลดลงไปยัง 3% ในระดับ 5.75 ล้านในเดือนมีนาคม . นักเศรษฐศาสตร์คาดว่ายอดขายบ้านที่มีอยู่จะลดลง 0.7%

[Wealthup]

ตัวเลข NFP ของสหรัฐในเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 390k ตำแหน่ง สูงกว่าคาดการณ์ไว้โดยเฉลี่ย (325k) แต่ต่ำกว่าเดือนเมษายน (436k) ส่งผลให้การจ้างงานทั้งหมดอยู่ที่ระดับสูงสุดที่ 822k ก่อนเกิดการระบาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของค่าจ้างรายปีชะลอตัวลงจาก 5.5% เป็น 5.2% เทียบกับอัตราเงินเฟ้อ 8.3% กล่าวอีกนัยหนึ่งคือค่าจ้างแทบจะไม่สามารถกระตุ้นเงินเฟ้อในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ภาคการผลิต ซึ่งมักจะเป็นเรือธงของวัฏจักรธุรกิจ มีการจ้างงานเพิ่ม 18,000 ตำแหน่ง ซึ่งอ่อนแอกว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาถึง 3 เท่า และสูญเสียโมเมนตัมอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนแบ่งของประชากรที่ทำงานในระบบเศรษฐกิจ (economically active population) เพิ่มขึ้นเป็น 62.3% เนื่องจากผู้คนจำนวนมากพยายามหางานทำท่ามกลางเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและเงินออมในช่วงการระบาดใหญ่ใกล้หมดลง

นี่ไม่ใช่ข่าวเศรษฐกิจที่ดี แต่กำลังสะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ในขั้นต้น ตลาดอาจอยู่ภายใต้การควบคุมของการขายสินทรัพย์เสี่ยง แต่ยิ่งเราเห็นข้อมูลที่อ่อนแอมากเท่าใด เราก็ยิ่งควรให้ความสนใจกับความคิดเห็นของสมาชิก FOMC มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้อัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ยชะลอตัวลง

แหล่งข่าว The US labour market is no longer likely to push up inflation โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

[Wealthup]

เมื่อต้นเดือนมิถุนายน เฟดมีกำหนดจะเริ่มขายสินทรัพย์นอกงบดุล อย่างไรก็ตาม มูลค่างบดุลพุ่งสูงสุดเมื่อต้นเดือนเมษายน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขล่าสุด 50,000 ล้านดอลลาร์

ดัชนี S&P500 ร่วงลงอย่างมากนับแต่ช่วงต้นปี และร่วงหนักระหว่างที่งบดุลของเฟดทำสถิติสูงสุด นั่นคือจุดเริ่มต้นของการร่วงต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ สิ่งนี้แตกต่างโดยพื้นฐานจากปี 2018 โดยที่ตลาดตราสารทุนของสหรัฐผันผวนจากการเบิกจ่ายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งตามมาด้วย การเติบโตอันเนื่องมาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาค

ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้แสดงความสัมพันธ์กันอย่างไม่สมบูรณ์นัก จากมุมมองนี้ การเกิดขึ้นของนักเทขายอย่างเป็นระบบในรูปแบบของธนาคารกลางจะทำให้มูลค่าร่วงลง เช่นเดียวกับการซื้องบดุลที่ดึงหุ้นขึ้นในปี 2020 และ 2021

ดังที่เราเห็น แม้แต่การคลาดเคลื่อนของการเพิ่มขึ้นของงบดุลของเฟดก็ทำให้เกิดแรงกดดันต่อตลาด การย้ายเข้าสู่ช่วงการเทขายอย่างหนักจะทำให้หุ้นและพันธบัตรถูกกดดันมากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ส่งผลให้ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มระยะสั้นของตลาด สำหรับนักลงทุนระยะกลาง ควรรอให้ผู้เข้าร่วมตลาดทำความเข้าใจกับสภาพตลาดอีกครั้ง

แหล่งข่าว The Fed's quantitative tightening will further shift the balance to sellers โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

[Wealthup]

ในเดือนพฤษภาคม การจ้างงานของบริษัทสหรัฐอยู่ที่ 128K ตำแหน่งงานตามรายงานของ ADP ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวที่ค่อยๆ ลดลง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วนักวิเคราะห์ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

การดูภายในรายงานยิ่งน่าตกใจมากขึ้นไปอีก บริษัทขนาดเล็กมาก (พนักงาน 1-19 คน) และบริษัทขนาดเล็ก (พนักงาน 20-49 คน) ปลดพนักงานออกถึง 78K และ 14K ตำแหน่งตามลำดับ นี่เป็นสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทขนาดเล็กไม่รับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ ในทางกลับกัน บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่กำลังจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยมีโอกาสมากขึ้นในการแข่งขันด้านค่าจ้างและทางเลือกเพิ่มเติม

รายงานดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับรายงานการจ้างงานที่จะออกมาวันพรุ่งนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดควรมองหาสัญญาณว่าตลาดแรงงานถึงจุดร้อนแล้วและพร้อมจะคลายลงหรือยัง ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ สัญญาณเหยี่ยวที่ไม่สนใจตลาดของเฟดนั้นอาจไม่เหมาะสมซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจถดถอยลงลึกเข้าไปอีก สำหรับตลาด นี่หมายถึงการเผชิญหน้ากันมากขึ้นสำหรับค่าเงินดอลลาร์และหุ้น และคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความยั่งยืนของการชุมนุมสินค้าโภคภัณฑ์

แหล่งข่าว Alarming ADP jobs report โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

[Wealthup]

น้ำมันดิบลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยลดลงกว่า 2% ก่อนหน้านี้จากความคิดเห็นของไบเดนว่าฝั่งตะวันตกอาจตกลงซื้อน้ำมันรัสเซียในราคาลดพิเศษแทนการคว่ำบาตร

นอกจากนี้ สื่อสหรัฐรายงานว่าซาอุดิอาระเบียจะเข้ามาแทนที่ แม้ในด้านซาอุดีอาระเบียยังปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการ พร้อมปฏิเสธถึงความยินดีที่จะตัดรัสเซียออกจากโควต้าของ OPEC+ ซึ่งเราตั้งข้อสังเกตเมื่อต้นสัปดาห์ว่าข่าวเกี่ยวกับการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับน้ำมันรัสเซียไม่ได้มาพร้อมกับราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างมีเหตุผลอันเนื่องมาจากรูปแบบ "sell the facts"

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นนั้นกำลังเล่นกับน้ำมันในท้องถิ่น ข้อมูลระดับมหภาคที่หนุนความเชื่อมั่นของตลาดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 50 จุด การกระชับนโยบายที่มากขึ้น ซึ่งต่างส่งผลต่อราคาน้ำมัน ในมุมมองของเรา ตลาดกระทิงไม่สามารถผลักดันราคาให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้อีกต่อไป เพราะข่าวเชิงลบในตลาดที่กำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากวันนี้ สต็อกน้ำมันและก๊าซของสหรัฐและแนวโน้มการผลิตเป็นสิ่งที่เราต้องจับตา หากข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าการผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นด้วยการบริโภคในระดับปานกลาง อาจส่งผลให้มีการเทขายน้ำมันได้ สถานการณ์ตรงกันข้าม การผลิตที่บางเบาและสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นก็ไม่น่าจะผลักดันราคาไปสู่ระดับใหม่ได้อีก

อนึ่ง สถานการณ์ในปีนี้อาจเกิดขึ้นแบบในปี 2014 จากาวเกี่ยวกับการเติบโตของการผลิตในซาอุดีอาระเบียและสหรัฐและการเข้มงวดนโยบายการเงินส่งผลให้ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 60% ภายในเวลาเจ็ดเดือน ซึ่งแค่ยังไม่ถึงจุดเปลี่ยน แต่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหนึ่งหรือสองเดือนข้างหน้า

แหล่งข่าว Downside sensitivity builds up in oil โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

[Pipat]

เงินดอลลาร์ยังคงลงลดระหว่างข้อมูลทางเศรษฐกิจเชิงบวกบดบังความต้องการสกุลเงินปลอดภัย

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในวันอังคาร โดยเพิ่มขึ้นจากระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษที่แตะเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกและการคลายความกังวลของโควิดในจีนจึงก่อให้เกิดการซื้ออย่างมากในตลาดหุ้นทั่วโลก และทำให้เกิดความต้องการต่อสกุลเงินปลอดภัย ประธานเฟด Jerome Powell กล่าวในวันนี้ว่าเขามั่นใจว่าธนาคารกลางสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจัดการกับเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่าเขาจะตั้งข้อสังเกตว่ามันจะเป็นงานที่ท้าทาย คุณ Powell กล่าวว่า“เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง เราคิดว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะทนต่อนโยบายการเงินแบบพิเศษน้อยลง” ข้อมูลที่นำเสนอโดยกระทรวงพาณิชย์แสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นถึง 0.9% ในเดือนเมษายนหลังจากที่เพิ่มขึ้นถึง 1.4% ในเดือนมีนาคมที่ปรับตัวขึ้น นักเศรษฐศาสตร์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นถึง 0.7% เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 0.5% ตามที่รายงานไว้ในเดือนก่อนหน้า หากไม่รวมการฟื้นตัวของยอดขายจากตัวแทนจำหน่ายยานยนต์และชิ้นส่วนพบว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นถึง 0.6% ในเดือนเมษายน หลังจากเพิ่มขึ้นถึง 2.1% ในเดือนมีนาคม ยอดขายรถยนต์คันเก่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% การผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายนปี 2022 ตามการปรับขึ้น 5.4% จากการปรับตัวลงในเดือนมีนาคม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 103.23 ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยที่ 103.32 แต่ยังคงลดลงมากถึง 0.82% จากการปิดครั้งก่อน ดัชนีได้ปรับตัวขึ้นไปที่ 105.01 ในวันศุกร์ก่อนที่จะปรับตัวลง ค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายที่ 1.0552 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรจาก 1.0433 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายที่ 1.2492 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินปอนด์สเตอร์ลิง โดยสูญเสียไป 1.2321 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 129.36 เยนเมื่อเทียบกับสกุลเงินญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเหลือ 0.7030 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจาก 0.6971 เงินฟรังก์สวิสแข็งค่าที่ 0.9936 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1.0020 ขณะที่เงินดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าขึ้นที่ 1.2811 ต่อดอลลาร์

[Wealthup]

คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเมษายน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก่อนหน้า แต่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย 0.6% ขณะที่หากไม่รวมการขนส่ง คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายน หลังจากเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ บริษัทและผู้คนมักจะหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าราคาแพงโดยคาดว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัว ดังนั้นคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจึงถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดชั้นนำของวัฏจักรเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ตัวบ่งชี้นี้ชี้ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของอุปสงค์ทางธุรกิจ ซึ่งดีกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ 12.1% ต่อปี เทียบกับอัตราเงินเฟ้อ 8.3% ต่อปี ข้อมูลดังกล่าวสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ที่ลดการเก็งกำไรว่าเฟดจะทำให้เกิดภาวะถดถอย

แหล่งข่าว US Durable goods orders market strong business demand โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst

[Pipat]

เงินดอลลาร์หนุนตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษใหม่

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลักอื่นๆและพุ่งตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษในวันพฤหัสบดี โดยมีแนวโน้มว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นและนโยบายที่มีความเข้มงวดขึ้นได้ช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยของสกุลเงิน รายงานที่ออกโดยกระทรวงแรงงานระบุว่าอัตราการเติบโตของราคาผู้ผลิตรายปีชะลอตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน รายงานแสดงให้เห็นว่าอัตราการเติบโตประจำปีของราคาผู้ผลิตลดลงเหลือ 11% ในเดือนเมษายน จากระดับสูงสุดคามที่บันทึกใน 11.5% ของเดือนมีนาคมแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีการชะลอตัวครั้งใหญ่ถึง 10.7% ราคาผู้ผลิตหลักซึ่งไม่รวมกับราคาอาหาร พลังงาน และบริการการค้าได้เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสแสดงถึงการชะลอตัวลงเล็กน้อยจากการเพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนก่อนหน้านี้ รายงานอีกฉบับที่ออกโดยกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นการขอรับผลประโยชน์การว่างงานในครั้งแรกที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างฉับพลันในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 เดือนพฤษภาคม กระทรวงแรงงานกล่าวว่าผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นเพิ่มขึ้นเป็น 203,000 ราย โดยเพิ่มขึ้น 1,000 รายจากระดับที่ปรับใหม่ในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 202,000 ราย นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงเหลือ 195,000 รายจาก 200,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์มุ่งหน้าขึ้นสู่ 104.93 ก่อนปรับตัวลงเล็กน้อยและทำกำไรบางส่วนได้ ล่าสุดเห็นอยู่ที่ประมาณ 104.80 โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.9% จากการปิดครั้งก่อนหน้านี้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นที่ 1.0379 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรจาก 1.0515 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายที่ 1.2197 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับปอนด์สเตอร์ลิง โดยแข็งค่าขึ้นจาก 1.2251 ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 128.34 เยนต่อเงินเยน เมื่อเทียบกับ 129.98 เยนในวันพุธ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่ 0.6859 โดยแข็งค่าขึ้นจาก 0.6938 เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินฟรังก์สวิสมากกว่าถึง 1% โดยซื้อขายที่ chf 0.9961 เงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเหลือ 1.3044 ต่อดอลลาร์ โดยขยับตัวจาก 1.2994 ที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัว

[Yellowjixn]

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมเปิดเผยแผนการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเอเชียระหว่างการเดินทางเยือนภูมิภาคในชื่อการประกาศนโยบายกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก โดยเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งมีการหารือกันข้อตกลงทางการค้ารูปแบบเดิมแต่ยังรวมถึงด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การสร้างระบบซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นมากขึ้น การส่งเสริมพลังงานสะอาด และการต่อต้านคอร์รัปชัน

[Wealthup]

ตลาดแรงงานสหรัฐกำลังตึงตัวมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน อัตราการเปลี่ยนงานก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลรายสัปดาห์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ลดลงอีกเป็น 1.317 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 1969

ในเวลาเดียวกัน จำนวนขอรับสวัสดิการเบื้องต้นในสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 218,000 เทียบกับ 197,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้นจากสองเดือนก่อนหน้า
เนื่องจาก recurrence rates ลดลงอย่างเป็นระบบ และรายงานการจ้างงานล่าสุดระบุว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น จึงมีเหตุผลที่จะสันนิษฐานว่าการขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นในเบื้องต้นนั้นเกิดจากการที่ผู้คนมีความกระตือรือร้นมากขึ้นและหางานทำได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ตลาดแรงงานในปัจจุบันอาจเป็นอัตราการเติบโตของค่าจ้างที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ถึงกระนั้น ก็ควรเพิ่มความระมัดระวังของสัญญาณเหยี่ยวจากเฟดเพื่อให้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น

แหล่งข่าว Intensified rotation in the US labour market โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst