สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของจีน

[Jeans]

รายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของประเทศจีนในวันจันทร์

ประเทศจีนมีกำหนดจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขราคาผู้บริโภค และราคาผู้ผลิตในเดือนกันยายน โดยแสดงให้เห็นถึงวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดการณ์ว่าราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นมาถึง 2.9% ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิม 2.8% ในเดือนสิงหาคม ราคาผู้ผลิตปรับตัวลดลงไป 1.2% ต่อปี หลังจากลดลงไปเท่ากับ 0.8% ในเดือนก่อนหน้า ธนาคารกลางของประเทศออสเตรเลียจะนำเสนอรายงานการประชุมนโยบายทางการเงินของวันที่ 1 เดือนตุลาคม ในการประชุมพบว่า ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลักลงไปเป็นครั้งที่สามของปีนี้ โดยลดอัตราดอกเบี้ยไป 25 จุด ไปที่ระดับ 0.75% ซึ่งตรงกับการคาดการณ์ ประเทศนิวซีแลนด์จะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของเดือนกันยายนออกมาเกี่ยวกับ การถือครองพันธบัตรสำหรับผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ โดยในเดือนสิงหาคมพบว่า มันอยู่ที่ระดับ 53.3% ประเทศญี่ปุ่นจะพบกับการรายงานของเดือนสิงหาคม เกี่ยวกับดัชนีอุตสาหกรรมระดับตติยภูมิ และข้อมูลตัวเลขของเดือนสิงหาคมเกี่ยวกับ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ดัชนีอุตสาหกรรมระดับตติยภูมิ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเท่ากับ 0.6% ในเดือนนี้ โดยเพิ่มขึ้นมาจากที่ 0.1% ในเดือนกรกฎาคม จากข้อมูลก่อนหน้าเกี่ยวกับการผลิตของภาคอุตสาหกรรมนั้น ลดลงไป 1.2% ต่อเดือนและอยู่ที่ 4.7% ต่อปี ประเทศอินโดนีเซียจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับ การนำเข้า, การส่งออก และดุลการค้าในรอบเดือนกันยายน โดยในเดือนสิงหาคมพบว่า การนำเข้ามีมูลค่าอยู่ที่ 14.20 พันล้านดอลลาร์ และการส่งออกอยู่ที่ระดับ 14.28 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นดุลการค้าอยู่ที่ 85.1 ล้านดอลลาร์

[PatCKY.CH24]

ภาคเอกชนของประเทศจีนขยายตัวมากที่สุดในรอบห้าเดือน ภายในเดือนกันยายน โดยดัชนีผลผลิตแบบคอมโพสิตจาก Caixin ปรับตัวขึ้นมา 51.9 ในรอบเดือนกันยายน ซึ่งมากกว่าระดับที่ 50 จึงแสดงถึงการขยายตัวที่เกิดขึ้น แม้ว่าดัชนี PMI ด้านการบริการลดลงไปในระดับต่ำในรอบ 7 เดือนก็ตามที แต่มันก็แสดงให้เห้นว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังฟื้นตัวขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย

[Jeans]

รายงานดัชนีการบริการ และคอมโพสติของประเทศจีนในวันอังคาร

ประเทศจีนมีกำหนดจะนำเสนอการรายงานของเดือนกันยายนเกี่ยวกับ ดัชนีการบริการและดัชนีคอมโพสิตจากสถาบัน Caixin ในวันอังคาร ที่กำหนดให้เป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกิดขึ้น คาดการณ์ว่าดัชนีการบริการ จะอยู่ในระดับ 52.0 โดยลดลงมาเล็กน้อยจากเดิมใน 52.1 ของเดือนสิงหาคม ในขณะที่ดัชนีคอมโพสิตปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 51.4 จากเดิมที่ระดับ 51.6 ประเทศออสเตรเลียจะพบกับการรายงานของเดือนกันยายน เกี่ยวกับการโฆษณาตำแหน่งงานจากสถาบัน ANZ และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และดัชนีสภาพจากสถาบัน NAB โดยในเดือนสิงหาคมพบว่าการโฆษณาตำแหน่งงานลดลงไป 2.8% ต่อเดือน ในขณะที่ดัชนี NAB ทั้งสองอยู่ในระดับ +1 ประเทศญี่ปุ่นจะนำเสนอข้อมูลของเดือนสิงหาคม เกี่ยวกับบัญชีเดินสะพัด, การใช้จ่ายในครัวเรือน และรายรับเงินสดแรงงาน คาดการณ์ว่าบัญชีเดินสะพัด จะแสดงให้พบกับการเกินดุลถึง 2.10 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิม 99.99 ล้านล้านเยนในเดือนกรกฎาคม การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนปรับตัวขึ้นมาเป็น 0.9% ในรอบปี หลังจากที่เพิ่มขึ้นมาเท่ากับ 0.8% ในช่วงเดือนก่อนหน้านี้ สำหรับรายรับเงินสดแรงงาน มีการปรับตัวลงไปจาก 0.2% ต่อปีหลังจากการลดลงไปอยู่ที่ 0.3% ในเดือนก่อนหน้านี้ ประเทศเกาหลีใต้จะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของเดือนสิงหาคม เกี่ยวกับบัญชีเดินสะพัด โดยในเดือนกรกฎาคมพบว่า บัญชีเดินสะพัดมีการเกินดุลอยู่ที่ 6.95 พันล้านดอลลาร์

[Yellowjixn]

ทางธนาคารแห่งประเทศจีนรายงานว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศจีนลดลงมาในช่วงเดือนกันยายน โดยมีมูลค่าอยู่ที่ราวๆ 3.092ล้านล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าเดือนที่แล้ว และต่ำกว่าการคาดการณ์ไว้อีกด้วย เพราะว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และการเปลี่ยนแปลงในราคาสินทรัพย์ได้ส่งผลกระทบถึงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

[Jeans]

รายงานข้อมูลของประเทศจีนในวันจันทร์

ประเทศจีน มีกำหนดจะนำเสนอข้อมูลออกมาในวันจันทร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเกิดขึ้น มีการรายงานข้อมูลตัวเลขของเดือนสิงหาคมเกี่ยวกับ การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดการค้าปลีก, การลงทุนสินทรัพย์ถาวร, การว่างงานและ การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5.2% ในรอบปี โดยเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ระดับ 4.8% ในเดือนกรกฎาคม ส่วนยอดการค้าปลีก ปรับตัวสูงขึ้นมาเป็น 8.0% ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ระดับ 7.6% ในรอบเดือนก่อนหน้านี้ และ FAI มีการทรงตัวอยู่ที่ระดับ 5.7% อัตราการว่างงานในรอบดือนกรกฎาคม อยู่ที่ระดับ 5.3% ในขณะที่ การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10.6% ในรอบปี ประเทศนิวซีแลนด์จะพบกับการรายงานของเดือนสิงหาคม เกี่ยวกับ ดัชนีด้านการบริการ จากสถาบัน BusinessNZ โดยในเดือนกรกฎาคมพบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 54.7 ประเทศอินโดนีเซีย จะนำเสนอข้อมูลของเดือนสิงหาคมออกมา เกี่ยวกับ การนำเข้า, การส่งออก, ดุลการค้า โดยในเดือนกรกฎาคมพบว่า การนำเข้ามีมูลค่าเท่ากับ 15.51 พันล้านดอลลาร์และ การส่งออกอยู่ที่ระดับ 15.45 พันล้านดอลลาร์ สำหรับดุลการค้าที่มีการขาดดุลอยู่ที่ 63.5 ล้านดอลลาร์ ตลาดของประเทศมาเลเซียและ ญี่ปุ่น จะปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องากเป็วันประจำชาติมาเลเซียและ วันเคารพผู้สูงอายุ ตามลำดับ โดยทั้งสองประเทศ จะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคาร

[Jeans]

อัตราเงินเฟ้อของประเทศจีนทรงตัวอยู่ที่ 2.8% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตลดลงต่อไป

ราคาผู้บริโภคของประเทศจีน ปรับตัวขึ้นมา อย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม ในขณะที่ราคาผู้ผลิต ได้ลดลงต่อไป เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ที่ได้ส่งสัญญาณถึงแรงกดดันของภาวะเงินฝืด ข้อมูลตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันอังคารว่า ราคาผู้บริโภค เพิ่มขึ้นมาถึง 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีจนถึงเดือนสิงหาคม นับว่ามีอัตราการเติบโตที่เท่ากันของในเดือนกรกฎาคม ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อ จะชะลอตัวลงไปที่ระดับ 2.7% ราคาอาหาร ปรับตัวขึ้นมาถึง 10% เนื่องจากราคาเนื้อหมู ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหาร ได้ลดลงไปอยู่ในระดับที่ 1.1% จากเดิมใน1.3% หากไม่คิดคำนวณรวมกับอาหารและพลังงานจะพบได้ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ได้มาอยู่ในระดับที่ 1.5% เมื่อนำมาเทียบกับระดับที่ 1.6% ในเดือนกรกฎาคม ในแต่ละเดือนพบว่า ราคาผู้บริโภค ปรับตัวขึ้นมาที่ 0.7% หลังจากที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 0.4% ในเดือนกรกฎาคม นับว่าเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาของราคาเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน รายงานอีกฉบับจากสถาบัน NBS แสดงให้เห็นว่า ราคาผู้ผลิต ได้ลดลงไปติดต่อกันรอบที่สามเดือนติดต่อกัน จนถึงเดือนสิงหาคม โดยราคาผู้ผลิต ได้ลดลงไปอยู่ที่ระดับ 0.8% ต่อปี หลังจากที่ได้ลดลงไปอยู่ที่ 0.3% ในเดือนก่อนหน้านี้ นอกจากนั้น คาดการณ์ว่าราคาจะลดลงไปถึง 0.9% เมื่อเทียบแต่ละเดือนแล้วจะพบว่า ราคาผู้ผลิตได้ลดลงไป 0.1% หลังจากที่ลดลงไปอยู่ที่ 0.2% ในเดือนกรกฎาคม คุณ Julian Evans-Pritchard และ Martin Rasmussen นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Capital Economics ออกมากล่าวว่า การปรับลด RRR ที่ได้ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ ได้สอดคล้องกับการประเมินถึง อัตราเงินเฟ้อในส่วนของราคาอาหารจะปรับตัวไป แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคต่อการผ่อนคลายในนโยบายทางการเงิน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ถึง การผ่อนคลายในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า อันเนื่องมาจาก แรงกดดันทางด้านอุปสงค์ ที่ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นและ ภาวะเงินฝืดที่อยู่ใกล้กับทางโรงงานยิ่งเพิ่มมากขึ้น

[PatCKY.CH24]

การเติบโตด้านการผลิตของประเทศจีนลดลงไปสู่ระดับต่ำในรอบ 17ปี ส่วนการผลิตทางอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.4% ซึ่งลดลงมาจากเดิมในเดือนที่แล้วใน 4.8% แล้วยังน้อยกว่าการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ใน 5.2% โดยการลดลงยังเกิดขึ้นในด้านการลงทุนสินทรัพย์ถาวรอีกด้วย มีเพียงการค้าปลีกที่แสดงถึงการปรับตัวขึ้น แน่นอนว่าจากผลการรายงานออกมาเช่นนี้ได้ส่งผลต่อตลาดหุ้นของจีนให้มีการซื้อขายที่มีทิศทางยังไม่แน่นอน

[Yellowjixn]

อัตราเงินเฟ้อของประเทศจีนยังทรงตัวอยู่ที่เดิมใน 2.8% แต่ดัชนีราคาผู้บริโภคกลับปรับตัวขึ้นมาถึง 2.8% ในเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายด้านอาหาร โดยเฉพาะราคาอาหารเพิ่มขึ้นมา 10% ส่วนค่าใช้จ่ายในสินค้าที่ไม่ใช่อาหารก็เพิ่มขึ้นมาอีกถึง 1.1% ทางผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สงครามการค้าส่งผลให้เกิดการปรับตัวของราคา หากไม่คิดคำนวณรวมกับราคาอาหารและพลังงานจะพบว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของจีนจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.5%

[PatCKY.CH24]

เงินหยวนที่อ่อนค่าลงไปในช่วงแรกของปีนี้ จากผลกระทบของสงครามการค้า ได้ไปกระตุ้นให้อุปสงค์ต่อคริปโตเคอเรนซี้อย่าง btc กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยไปในมุมมองของนักลงทุนชาวจีน โดยภาวะการพึ่งพาซึ่งกันและกัน btc ยังทำให้คริปโตเคอเรนซี่อันดับหนึ่ง กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไปเลย

[Jeans]

ราคาผู้บริโภคของประเทศจีน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.8% ในเดือนสิงหาคม

สำนักสถิติแห่งชาติได้ออกมานำเสนอข้อมูลในวันอังคารว่า ราคาผู้บริโภคของประเทศจีน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.8% ในรอบปีจนถึงเดือนสิงหาคม โดยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากข้อมูลในรอบเดือนกรกฎาคม แต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวขึ้นมาถึง 2.7% ในแต่ละเดือนพบว่า ราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.7% ซึ่งปรับตัวมาจากเดิมที่ระดับ 0.4% ในเดือนก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานยังกล่าวอีกว่า ราคาผู้ผลิตได้ลดลงไปอยู่ที่ระดับ 0.8% ในรอบปี เมื่อได้นำมาเทียบกับ การคาดการณ์ที่ประเมินไว้ว่าจะมีการหดตัวลงมาถึง 0.9% หลังจากที่เคยมีการลดลงมาเท่ากับ 0.3% ในเดือนก่อนหน้านี้