นายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Upbit Thailand) เปิดเผยว่า บริษัทได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับนักลงทุนด้วยการนำคู่เหรียญบิตคอยน์ (BTC) และเทเทอร์ (USDT) กว่า 26 คู่เหรียญ เข้ามาให้นักลงทุนร่วมซื้อขาย มุ่งเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนในไทยได้มีโอกาสซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
โดยใน 26 คู่เหรียญนี้จะมีคู่เหรียญใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ALGO, ATOM, BTT, CHZ, CRO, EOS, FIL, FLOW, KLAY, TRX เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนในประเทศไทยได้ซื้อขายอย่างหลากหลาย ทั้งนี้ Upbit Thailand เป็นผู้ให้บริการนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลที่เริ่มจากการเชื่อมกับตลาด Upbit ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในเอเชีย จึงสามารถเพิ่มสภาพคล่องให้นักลงทุน ทำให้นักลงทุนในไทยได้ร่วมเทรดกับตลาดระดับโลก ในขณะที่ยังได้รับความคุ้มครองจากการกำกับดูแลในประเทศไทยอยู่ อีกทั้งสภาพคล่องที่สูงในตลาดเกาหลีจะช่วยให้การซื้อขายมีความคล่องตัวสูงอีกด้วย
“ปกติการเทรดคริปโทฯ ต้องเทรดคู่กับเงินบาท แต่ในภาวะตลาดขาลงหากเทรดคู่กับเงินบาทก็จะทำให้ขาดทุนทันที แต่การเปิดให้นักลงทุนสามารถเทรดคริปโทฯ คู่กับคริปโทฯ ได้จะช่วยลดความเสี่ยงเพราะสามารถรอให้ตลาดฟื้นค่อยขายเป็นเงินบาทได้ โดยนักลงทุนสามารถทำความคุ้นเคยกับการเทรดคู่คริปโทฯ กับคริปโทฯ ได้จาก Upbit Thailand และเชื่อว่านักลงทุนในไทยมีความเชื่อมั่นในตลาดคริปโทฯ และมีศักยภาพที่จะไปซื้อขายแข่งขันในตลาดระดับโลกได้" นายพีรเดช กล่าวเสริม
สำหรับ Upbit ประเทศเกาหลีใต้ เปิดให้บริการเมื่อปี 2560 และได้ขยายสาขามาที่ประเทศสิงคโปร์และประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทั้งสองสาขาได้ทำการเชื่อมกับตลาดที่เกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อย และสาขาประเทศไทยเป็นสาขาล่าสุดที่ทำการเชื่อมนี้
บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการจากสำนักงาน ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคม 2564