อาหารไทย เมนูอาหาร ง่ายๆเหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร อาหารรสชาติไม่เผ็ด อาหารจานหลัก ของทุกครอบครัว คือ ผัดผักรวมมิตร ภาษาอังกฤษ เรียก fried stir mixed vegetable with oyster sauce เคล็ดลับการทำผัดผัก คือ ผักที่สดๆ เทคนิคการผักและการปรุงรสชาติ
สูตรผัดผักรวมมิตร ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด
ส่วนผสมสำหรับทำผัดผักรวมมิตร
กุ้ง 5-6 ตัว แกะเปลือก ตัดหัว ผ่าหลัง
เห็ดหูหนูแห้ง แช่น้ำและหั่นให้มีขนาดพอดีคำ 3-4 ดอก
แครอต หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 5-6 ชิ้น
ถั่วลันเตา 4-5 ฝัก
คะน้า หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ 5-6 ชิ้น
กะหล่ำปลี หั่นเป็นชิ้นขอดีคำ 1 กำมือ
ดอกกะหล่ำ หั่นเป็นชิ้น 2-3 ดอก
เห็ดโคน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 2-3 ดอก
ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นท่อนพอดีคำ 3-4 ฝัก
มะเขือเทศ หั่นพอดีคำ 1 ลูก
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
วิธีการทำผัดผักรวมมิตร
เริ่มจากตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม
ใส่ เห็ดหูหนู ข้าวโพดอ่อน แครอท ผักคะน้า และ ถั่วลันเตาลงไปผัด
ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม น้ำตาล น้ำปลา และ ซีอิ้วขาว เติมน้ำลงไปนิดหน่อย
จากนั้นใส่กุ้งลงไปผัด ให้สุก เมื่อเนื้อกุ้งสุกได้ที่ ใส่ ผัดกะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำลงไปผัด
เมื่อผักทั้งหมดสุกได้ที่ให้ปิดไฟ เสริฟใส่จาน พร้อมรับประทานได้
เคล็ดลับการทำผัดผักรวมมิตร
เลือกใช้ผัก ให้เลือกผักที่สดและใหม่ ที่สำคัญ เมื่อได้ผักมาให้ล้างผักให้สะอาด เนื่องจากอาจมีสารพิษจากยาฆ่าแมลง หากกินเข้าไปอาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย
ให้ตรียมเครื่องปรุงและใส่เครื่องปรุงพร้อมกัน เนื่องจากผัดผักรวมมิตรผัดนานไม่ได้ จะทำให้ผัดเหี่ยว ไม่น่ารับประทาน
ในการผัดนั้นไม่ต้องผัดนาน เนื่องจากผักต่างๆนั้นเฉาง่าย หากเหี่ยวเละ จะไม่น่ารับประทาน
ผัดผักที่สุกยากลงไปก่อน เช่น เห็ด และแครอท
ใช้ไปแรงในการผัดและไม่ต้องผัดนาน จะทำให้ได้ผัดผักที่ยังหวานและกรอบอยู่
สำหรับเนื้อสัตว์ สามารถเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น เนื้อหมู ปลาหมึก เป็นต้น
ผักต่างๆที่นำมาผัด สามารถปรับได้ตามใจชอบ แต่เทคนิคการผัด ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับผักที่สุกง่ายและสุกยาก ผักอะไรสุกยากให้ใส่ลงไปผักก่อน ให้สุกก่อน จึงใส่ผักที่สุกง่ายตาม
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ต้องใช้น้ำมันใหม่ ไม่ให้ใช้น้ำมันเก่า ที่ผ่าการทอดมาใช้ผัด เนื่องจากกลิ่นของอาหารอื่นจะทำให้รสชาติอาหารเสียไป และน้ำมันไม่ต้องใส่มากเกินไป
ที่มา: https://nlovecooking.com/%E0%B8%9C%E...8%95%E0%B8%A3/