ถึงจะเป็นนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรง แต่ยังไม่อาจรอดพ้น จากไวรัส โควิด-19 ไปได้ และน่าสนใจกว่านั้น คือ อาการแต่ละคนมีจุดเริ่มต้น และจุดร่วมต่างกัน จนทางการแพทย์แยกแยะได้แล้วว่า ลักษณะไหนเข้าข่ายติด?
โดย องค์การอนามัยโลก ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยโควิด-19 ไว้ 3 หมวดใหญ่ด้วยกัน ประมาณนี้ คือ
อาการทั่วไป
- มีไข้
- ไอแห้ง
- อ่อนเพลีย
อาการที่พบไม่บ่อยนัก
- ปวดเมื่อยเนื้อตัว
- เจ็บคอ
- ท้องเสีย
- ตาแดง
- ปวดศีรษะ
- สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่น และรับรส
- มีผื่นบนผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี
อาการรุนแรง
- หายใจลำบาก หรือหายใจถี่
- เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก
- สูญเสียความสามารถในการพูด และเคลื่อนไหว
โดยที่ผ่านมามีนักเตะ และอดีตนักเตะหลายคนเคยติดเชื้อ พร้อมกับแสดงอาการแตกต่างกันในแต่ละรายที่พบเจอ อย่างเช่น คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, มิเกล อาร์เตต้า หรือมาโนโล่ กับเบียดินี่ (กองหน้าของสโมสร ซามพ์โดเรีย)
ขณะที่บางคน กลับมีอาการร่วมที่ดูไม่เหมือนกันเลย เช่น โกโตคุ อาซากิ (กองหลังของสโมสร วิสเซิล โกเบ) ซึ่งรู้สึกว่า ประสาทสัมผัสเรื่องกลิ่น / รสชาติหายไป หรือ เปาโล ดีบาล่า ที่มีอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอย่างแรง
รวมถึง เปเป้ เรน่า อดีตมือกาวของหงส์แดง ที่มีอาการหายใจลำบาก (มาก) และขาดออกซิเจนไปถึง 25 นาที ส่วนกลุ่มไม่แสดงอาการก็มี อย่างเช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เนย์มาร์, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และอีกหลายๆ คน
แน่นอน ทั้งหมด อาจช่วยเป็นข้อมูลเบื้องต้น ให้กับคนธรรมดาอย่างเราได้เหมือนกันว่า ถ้ามีอาการประมาณนี้ ควรรีบไปตรวจ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยง จากการที่เคยอยู่ใกล้ชิด หรือไปในที่ที่มีผู้ติดเชื้อเคยเดินทางไป
หรือถ้ามีความเสี่ยงต่ำ สิ่งที่ต้องทำ คือใส่แมสก์, ใช้แอลกอฮอล์, ลดการเดินทาง และเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด ส่วนหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมา ยังไงก็ถือว่า เราป้องกันอย่างตัวเองเต็มที่ และดีที่สุดแล้ว จริงไหม?
ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก: https://timeout.siamsport.co.th/health/view/221088