Name:  img20210108145662.jpg
Views: 454
Size:  25.8 KB

ถึงจะเป็นนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรง แต่ยังไม่อาจรอดพ้น จากไวรัส โควิด-19 ไปได้ และน่าสนใจกว่านั้น คือ อาการแต่ละคนมีจุดเริ่มต้น และจุดร่วมต่างกัน จนทางการแพทย์แยกแยะได้แล้วว่า ลักษณะไหนเข้าข่ายติด?

โดย องค์การอนามัยโลก ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยโควิด-19 ไว้ 3 หมวดใหญ่ด้วยกัน ประมาณนี้ คือ

อาการทั่วไป
- มีไข้
- ไอแห้ง
- อ่อนเพลีย

อาการที่พบไม่บ่อยนัก
- ปวดเมื่อยเนื้อตัว
- เจ็บคอ
- ท้องเสีย
- ตาแดง
- ปวดศีรษะ
- สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่น และรับรส
- มีผื่นบนผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี

อาการรุนแรง
- หายใจลำบาก หรือหายใจถี่
- เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก
- สูญเสียความสามารถในการพูด และเคลื่อนไหว

โดยที่ผ่านมามีนักเตะ และอดีตนักเตะหลายคนเคยติดเชื้อ พร้อมกับแสดงอาการแตกต่างกันในแต่ละรายที่พบเจอ อย่างเช่น คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, มิเกล อาร์เตต้า หรือมาโนโล่ กับเบียดินี่ (กองหน้าของสโมสร ซามพ์โดเรีย)

Name:  1_SSTO_QUOTE_COVID-100.jpg
Views: 422
Size:  39.2 KB

ขณะที่บางคน กลับมีอาการร่วมที่ดูไม่เหมือนกันเลย เช่น โกโตคุ อาซากิ (กองหลังของสโมสร วิสเซิล โกเบ) ซึ่งรู้สึกว่า ประสาทสัมผัสเรื่องกลิ่น / รสชาติหายไป หรือ เปาโล ดีบาล่า ที่มีอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอย่างแรง

Name:  4_SSTO_QUOTE_COVID-100.jpg
Views: 419
Size:  32.2 KB

รวมถึง เปเป้ เรน่า อดีตมือกาวของหงส์แดง ที่มีอาการหายใจลำบาก (มาก) และขาดออกซิเจนไปถึง 25 นาที ส่วนกลุ่มไม่แสดงอาการก็มี อย่างเช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เนย์มาร์, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และอีกหลายๆ คน

Name:  2_SSTO_QUOTE_COVID-100.jpg
Views: 385
Size:  32.7 KB

แน่นอน ทั้งหมด อาจช่วยเป็นข้อมูลเบื้องต้น ให้กับคนธรรมดาอย่างเราได้เหมือนกันว่า ถ้ามีอาการประมาณนี้ ควรรีบไปตรวจ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยง จากการที่เคยอยู่ใกล้ชิด หรือไปในที่ที่มีผู้ติดเชื้อเคยเดินทางไป

หรือถ้ามีความเสี่ยงต่ำ สิ่งที่ต้องทำ คือใส่แมสก์, ใช้แอลกอฮอล์, ลดการเดินทาง และเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด ส่วนหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมา ยังไงก็ถือว่า เราป้องกันอย่างตัวเองเต็มที่ และดีที่สุดแล้ว จริงไหม?

ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก: https://timeout.siamsport.co.th/health/view/221088