ด้าย: 
Subscribeเช็กซะหน่อย! อาการที่บอกว่าเกียร์อัตโนมัติมีปัญหา ควรนำเข้าอู่ให้ช่างตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อแก้ไข
เกียร์อัตโนมัติ หรือที่เรียกกันว่าเกียร์ออโต้ สร้างความสะดวกสบายให้ผู้ใช้เพราะไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ตามอัตราเร่งที่เหยียบ ไม่ต้องเหยียบคลัชต์ให้เมื่อย แถมยังช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเกียร์กระปุก แต่มีความสลับซับซ้อน ทั้งยังมีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ซ่อมแต่ละทีจึงเสียเงินไม่น้อยเลย
แม้เรื่องความทนทานจะไม่เท่าเกียร์ธรรมดา แต่ก็ใช่ว่าเกียร์อัตโนมัติจะพังได้ง่าย ๆ ขนาดนั้น ยิ่งถ้าได้รับการดูแลรักษาระบบส่งกำลังดี ๆ สักหน่อย ก็ใช้งานได้ยาว ๆ เลย
แต่ถ้าละเลยการดูแลรักษา หรือขับรถแบบไม่ถนอมเกียร์ ปัญหา “เกียร์พัง” อาจจะตามมาเร็วกว่าปกติเหมือนติดเครื่องยนต์สมรรถนะสูงเอาไว้ ซึ่งอาการที่บ่งบอกว่าเกียร์อัตโนมัติเริ่มมีปัญหา มีดังนี้
อาการที่บอกว่าเกียร์อัตโนมัติมีปัญหา
- เกียร์กระตุก อาการยอดฮิตที่บ่งชี้ว่าเกียร์ออโต้กำลังมีปัญหา มักเกิดกับรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วนาน ๆ คือ เมื่อเปลี่ยนเกียร์แล้วเกิดอาการกระชาก หรือเกียร์กระตุกจนรู้สึกได้ระหว่างขับรถ
- เกียร์ตอบสนองช้า เวลาเข้าเกียร์แล้ว รถขยับเขยื้อนช้ากว่าปกติ ไม่เหมือนที่เคยเป็น
- เกียร์ไร้การตอบสนอง เมื่อใส่เกียร์ D หรือ R แล้วรถยังนิ่ง ไม่ขยับ แม้จะเร่งเครื่องแล้วแต่รถก็ยังไม่เคลื่อนที่หรือถอยหลังแบบที่ควรจะเป็น
- เกียร์มีเสียงดังขณะทำงาน และมีความร้อนสูงภายในชุดเกียร์จนเกิดกลิ่นเหม็นไหม้ขึ้นมา
เมื่อเกิดความผิดปกติกับเกียร์อัตโนมัติ ควรรีบนำเข้าศูนย์เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุและแก้ไข ก่อนปัญหาจะลุกลาม และเกียร์รถคุณจะกลับบ้านเก่าเอาจริง ๆ ทั้งนี้ ควรทำใจเรื่องค่าใช้จ่ายเอาไว้สักหน่อย เพราะอย่างที่บอก เกียร์อัตโนมัติมีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ซ่อมทีจึงหนักหน่วงเอาการ
ผู้ใช้รถควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ระยะ 30,000-40,000 กิโลเมตร และไม่ทำพฤติกรรมที่จะส่งผลให้เกียร์เสียเร็ว เช่น ขับรถไม่ถนอมเกียร์, เปลี่ยนเกียร์เล่นบ่อย ๆ, เชนเกียร์ตอนรอบเครื่องสูง หรือกระแทกคันเร่ง ฯลฯ เพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ และยืดอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติให้นานขึ้น
ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...10528145731158
ฟอรัมฟอเร็กซ์ประเทศไทย
