นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมแบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้งถึงน่าใช้กว่าแบตเตอรี่น้ำและแบตเตอรี่กึ่งแห้งแม้ราคาสูงแต่คุ้มค่ามากถ้าขี้เกียจต้องมานั่งดูแลรักษา
ทำไมต้องเลือกใช้แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง ทั้งที่แบตเตอรี่แบบแห้งราคาสูงกว่าแบบทั่วไป แล้วดีจริงไหม ? หากคุณยังไม่แน่ใจว่าคุ้มค่ามากพอหรือไม่ ลองมาดูข้อดีกันเสียหน่อยก่อนตัดสินใจว่า แบตเตอรี่ลูกต่อไปควรจะเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่แบบแห้งเลยดีหรือเปล่า
แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง SMF (Sealed Maintenance Free)
แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้งจริง ๆ แล้วไม่ได้แห้งดังชื่อและยังมีของเหลวอยู่ภายในเช่นกัน แต่ไม่มีรูเปิด-ปิดไว้เติมน้ำกลั่นเหมือนแบตเตอรี่ปกติ เพราะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งานเลย โดยของเหลวนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งตะกั่ว-กรดที่ใช้แคดเมียมและตะกั่วในแผ่นเซลล์ หรือพวกที่ใช้สารละลายอัลคาไลน์อย่างนิเกิล-แคดเมียม แต่ปัจจุบันของเหลวในแบตเตอรี่แบบแห้งที่นิยมใช้กันมากคือแบบตะกั่ว-กรด เนื่องด้วยมีราคาต่ำกว่าของเหลวชนิดอื่น
ข้อดีของแบตเตอรี่แบบแห้ง
- ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน
- ไม่ต้องคอยดูแล คอยเช็กระดับน้ำกลั่น
- อยู่ในสภาพที่ไม่มีไฟได้นานกว่าแบตเตอรี่ปกติ
- โอกาสที่กฏิกิริยาทางเคมีภายในจะทำให้เกิดแก๊สมีน้อย
แบตเตอรี่แบบแห้งจึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบการดูแลรักษาจุกจิก คอยเติมน้ำกลั่น เบื่อต้องมานั่งสตาร์ตรถบ่อย ๆ ในยามที่ไม่ได้ใช้งานถี่นัก เพราะต้องการการดูแลน้อยครั้งกว่า เพียงแต่ต้องจ่ายในราคาสูงมากขึ้น
ดังนั้น ความคุ้มค่าของแบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้งราคาแพงกว่า จึงอยู่ที่การไม่ต้องมาเสียเวลาดูแลกันมากนัก โดยเฉพาะการเติมน้ำกลั่น แต่ถึงเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้งแล้วก็ยังต้องควรตรวจเช็กกำลังไฟสม่ำเสมอ
สำหรับการเลือกแบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้งควรเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกันคุณภาพ เป็นของใหม่ไม่เป็นแบตเตอรี่เก่าเก็บค้างสต็อก ส่วนสเปกหรือค่าต่าง ๆ ยังควรจะเป็นไปตามที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดเหมือนแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ
ที่มา: https://khaorot.com/car-care-and-mai...10510103800337