ประเทศจะรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจได้อย่างไร
มีหลายวิธีที่วิกฤตเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ อาจเกิดจากภาวะถดถอย อัตราการว่างงานสูง ค่าเงินอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว หรือการขาดดุลโครงสร้างระยะยาว วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับวิกฤตเศรษฐกิจคือการหาต้นตอของวิกฤต สมมติว่าเรากำลังพูดถึงภาวะถดถอยที่นี่ เราจำเป็นต้องรู้ว่าภาวะถดถอยเป็นผลมาจากการลงทุนภาคเอกชนที่ไม่ดี การจัดการที่ไม่ดี การพึ่งพาทรัพยากรเพียงแหล่งเดียวมากเกินไปหรือไม่
สมมุติว่าภาคเอกชนไม่เต็มใจลงทุน รัฐบาลต้องหาทางสร้างแพลตฟอร์มที่จะทำให้พวกเขาลงทุน รัฐบาลจะต้องเลือกกู้ยืมเพื่อใช้จ่าย และในที่สุดหนี้ก็จะเพิ่มขึ้น คำถามตอนนี้คือ รัฐบาลจะชำระหนี้ได้อย่างไร? พวกเขาจำเป็นต้องสร้างกระแสเงินสดจากนักลงทุน
นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องมีไดนามิกและมีประสิทธิภาพในการลงทุน เมื่อประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ผู้คนจะต้องตกงาน และนั่นจะทำให้รายได้เป็นศูนย์ รวมทั้งกำลังซื้อลดลงด้วย เมื่อประชาชนไม่ใช้จ่าย รัฐบาลจะได้รับรายได้ภาษีน้อยลงและภาคการผลิตจะต้องเลิกจ้างแรงงานทีละน้อย
และยิ่งผลิตน้อย โอกาสงานในประเทศยิ่งน้อยลง ดังนั้นเมื่อภาคเอกชนไม่เต็มใจที่จะลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่ง รัฐบาลจึงต้องมีกลยุทธ์เกี่ยวกับขั้นตอนของตน คำถามคือพวกเขาจะจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างไร พวกเขา (รัฐบาล) จะสร้างงานเพิ่มขึ้นหรือไม่? ขึ้นอยู่กับระบบของประเทศดังกล่าวและวิธีดำเนินการ
หากรัฐบาลมีอำนาจอย่างไม่จำกัดในระบบเศรษฐกิจ ก็สามารถก้าวเข้ามาและสร้างงานสาธารณะได้ อย่างไรก็ตามหากพวกเขามีอำนาจจำกัด พวกเขาอาจไม่สามารถสร้างงานได้ สิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้คือการหาวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ พวกเขาสามารถทำได้โดยเพียงแค่ให้โอกาสผู้คนในการกู้ยืมเงินจำนวนเล็กน้อยซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย พวกเขาสามารถสนับสนุนนักลงทุนด้วยการลดภาษีหรือสร้างนโยบายด้านอุปทานในตลาดเสรี