Name:  P03007954_1.jpg
Views: 79
Size:  61.8 KB

พระมหาเจดีย์ชัยมงคลนั้นได้เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2528 มีเนื้อที่ 2,500 ไร่ โดยมีพระเทพวิสุทธิมงคล หรือหลวงปู่ศรีมหาวีโร ซึ่งเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมในด้านการบำเพ็ญปฏิบัติสมถวิปัสสนากรรมฐานแก่พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชน โดยการปฏิบัติจริงบนสถานที่จริงในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม ตั้งอยู่ที่บ้านโคกกลาง ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด โดยวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนารามเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ชัยมงคล พระมหาเจดีย์ใหญ่ที่มีความงดงามตระการตามากที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นที่เคารพศรัทธา และความภาคภูมิใจของชาวร้อยเอ็ดและชาวอีสานอีกด้วย พระมหาเจดีย์ชัยมงคล เป็นพระธาตุเจดีย์ที่ใหญ่องค์หนึ่งของประเทศไทย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน และมีทั้งหมด 6 ชั้นออกแบบโดยกรมศิลปากร ลักกษณะเป็นศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลาง และภาคอีสาน พระเจดีย์เป็นสีขาวตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ มีความกว้าง 101 เมตร ความยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ และยอดทองคำใช้ทองคำมี่มีน้ำหนักถึง 60 กิโลกรัม ถือเป็นศาสนสถานสำคัญแห่งหนึ่ง ที่สะท้อนถึงพลังแห่งศรัทธาที่แรงกล้าของประชาชนในภาคอีสาน นอกจากนี้ พระมหาเจดีย์ชัยมงคลจะยังเป็นสถานที่ในการประกอบศาสนกิจต่าง ๆ มีพิพิธภัณฑ์วิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่ศรี และเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระเกจิอาจารย์ในอดีตทั้ง 101 องค์ รวมทั้งพระสารีริกธาตุ ซึ่งอยู่ชั้นบนสุด ให้ประชาชนทุกสารทิศได้มาสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่สนใจมาเยือนวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม แห่งนี้ สามารถเดินทางมา โดยไปตามเส้นทางสายร้อยเอ็ด-อำเภอโพนทอง-อำเภอหนองพอก โดยมีระยะทางประมาณ 62 กิโลเมตจากตัวเมืองร้อยเอ็ด ตามทางหลวงหมายเลข 2044 และ 2136 และใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงอำเภอหนองพอก ต่อไปยังบ้านท่าสะอาด ตำบลผาน้ำย้อย และขึ้นเขาเขียวไปอีก 5 กม. ก็จะถึงวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ทางวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมสักการะได้ ในระหว่างเวลา 06.00-17.00 น.ของทุกวัน รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วย โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมแต่อย่างใด

ที่มา: https://thai.tourismthailand.org/Att...B8%B2%E0%B8%A1