ดัชนีค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ ทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาน้ำมันที่ลดลงแล้ว 5% ตั้งแต่ช่วงแรกของวันศุกร์ ขณะที่ WTI ซื้อขายต่ำกว่า 79 ดอลลาร์ และเบรนต์ร่วงกลับมาที่ 85 ดอลลาร์
ปัจจัยลบอย่าประกาศตั้งแต่เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว นโยบายการเงินที่เข้มงวด และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น นับเป็นแรงกดดันต่อน้ำมัน ควบคู่กับความกังวลด้านอุปทานที่เริ่มเข้าสู่ตลาดมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว
แผนภูมิน้ำมันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเศรษฐกิจมีผลต่อราคาน้ำมันมากกว่าประเด็นการเมืองในเดือนมิถุนายนแล้ว แต่ในด้าน OPEC ยังพยายามจำกัดการผลิต โดยที่ OPEC+ ก็ยังไม่สามารถบรรลุตามโควตาได้ด้วย ขณะที่ความล่าช้าในการผลิตในสหรัฐก็ยังช่วยพยุงราคาไม่ให้ร่วงแรก โดยการผลิตของบริษัทในสหรัฐปัจจุบันอยู่ที่ 12.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 11.8 ล้านเมื่อต้นปี อนึ่งน้ำมันเบรนท์ร่วงลงสู่ระดับ 85 ดอลลาร์กลับคืนสู่จุดสูงสุดของสองรอบก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนตุลาคม 2021 และตุลาคม 2018
จนถึงตอนนี้วาทศิลป์ของนายธนาคารกลางและหน่วยงานต่างๆ ตอกย้ำถึงแนวทางนโยบายที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่ามันจะยิ่งกดดันตลาดลงอีก ขณะที่ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐ เช่น รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน ก็อาจแทบไม่ส่งผลเชิงบวกต่อราคาน้ำมันได้เลย
ในด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค หากน้ำมันทะลุระดับต่ำกว่า 85 ดอลลาร์ แนวโน้วต่อไปอาจอยู่ระหว่าง 65-68 ดอลลาร์ ภายในช่วงสิ้นปี
แหล่งข่าว Oil fall accelerated on soaring USD, weak economy โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst