Bitcoin ลดลง 1.7% ในวันพุธปิดที่ราว 20,000 ดอลลาร์ท่ามกลางการลดลงของดัชนีหุ้นและ USD ที่แข็งค่าขึ้น BTC ปรับฐานลงหลังจากเพิ่มขึ้นสองวัน ดัชนีความกลัวและความโลภเพิ่มขึ้น 1 จุดเป็น 26 ในวันพฤหัสบดีและเพิ่มขึ้นจากสถานะ "ความกลัวอย่างสุดขีด" เป็น "ความกลัว"



พื้นที่เชิงสัญลักษณ์ที่ 20,300 ดอลลาร์ทำหน้าที่เป็นแนวต้านในบริเวณนี้มากว่า 3 สัปดาห์ ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเราก็ยังเห็นแรงเทขายในระดับนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ในตลาดอื่น ๆ ยังอยู่ในความสงสัยว่าความต้องการความเสี่ยงเริ่มฟื้นตัวหรือไม่ นักลงทุนและผู้ค้ากำลังรอสัญญาณจากเฟดหรือธนาคารกลางอื่นๆ เพื่อเริ่มการแรลลี่อีกครั้ง และอาจเป็นสัญญาณชัดเจนว่า "ครั้งนี้ต่างไป" และเศรษฐกิจที่อ่อนแอจะไม่ทำให้หน่วยงานกำกับแตะเบรค

จากข้อมูลของ CryptoQuant นักขุดได้ลดการเทขาย Bitcoin ลงอย่างมากในเดือนกันยายน หลังจากการรีเซ็ตในเดือนสิงหาคม โดยเปลี่ยนไปถือสำรองไว้

Michael Novogratz หัวหน้า Galaxy Digital กล่าวว่าในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน Bitcoin ยังคงเป็นตัวเก็บมูลค่าที่ดี แต่ราคาของมันไม่น่าจะเกิน 30,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ท่ามกลางการดำเนินนโยบายของเฟด

SWIFT รายงานว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบการปรับใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) อย่างเต็มรูปแบบ

จากข้อมูลของ Chainalysis พบว่าตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ได้เป็นผู้นำในการนำคริปโตไปใช้ในด้านต่างๆ ของชีวิตประจำวันในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่ละตินอเมริกาและอเมริกาเหนือตามมาด้วย 40% และ 36% ตามลำดับ

ในไตรมาสที่สาม อุตสาหกรรมคริปโตสูญเสียเงิน 428 ล้านดอลลาร์จากการแฮ็กและการโจรกรรม โดยผู้เชี่ยวชาญของ Immunefi ใรแพลตฟอร์ม Bounty เผยว่าการแฮ็คหรือโจรกรรมมี 39 เหตุการณ์ โดย 30 ครั้งเป็นการโจมตีแบบแฮ็คจริง โดยมีมูลค่าการสูญเสียทั้งหมด 399 ล้านดอลลาร์

แหล่งข่าว Bitcoin needs a fundamental reason to rise โดย Alex Kuptsikevich - FxPro senior market analyst