ความคาดหวังของนักเศรษฐศาสตร์และตลาดคือการปรับขึ้น 25 จุด (โดยมีความเป็นไปได้ประมาณ 86%) ซึ่งประเด็นสำคัญคือการปรับขึ้นครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายในรอบนี้หรือไม่
ด้านหนึ่ง อัตราเงินเฟ้อที่สูง ซึ่งเชื่อมโยงอยู่แล้วกับต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้นและอุปสงค์ที่ยั่งยืนมากกว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่สูงขึ้น ดังเช่นกรณีปีที่แล้วเมื่อวัฏจักรการเข้มงวดเชิงนโยบายเริ่มขึ้น คำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ต่อสภาคองเกรสเมื่อต้นเดือนมีนาคมทำให้ตลาดคาดว่าจะมีการเคลื่อนไหว 50 จุดจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังสูง
ในทางกลับกัน เฟดคือความยืดหยุ่นของระบบการเงิน ความยากลำบากของธนาคารในภูมิภาคเป็นผลพวงหนึ่งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นมีแต่จะทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและตลาดแรงงานจะหดตัวซึ่งจะกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคารอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อพิจารณาจากประสิทธิภาพของตลาดและดัชนีดอลลาร์ นักเก็งกำไรเชื่อว่าเฟดมีความกลัวมากพอ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำกว่า 103 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของรอบ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในด้านกราฟรายสัปดาห์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าดัชนีดอลลาร์นั้นอยู่ใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงแนวโน้มขาลงในระยะยาว
นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ยังมีความเป็นไปได้ที่ร่วงลงต่ำกว่า 100.6 (ระดับต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์) โดยมีเป้าหมายระยะยาวอยู่ที่ 92.0 ซึ่งเกือบกลับไปที่ระดับก่อนที่จะมีการกระชับนโยบาย
แหล่งข่าว Will the Fed boom or bust the dollar? โดย Alex Kuptsikevich – FxPro senior market analyst