ผลิตภัณฑ์ครีมหน้าขาว
กรณีนักร้องสาวใช้ผลิตภัณฑ์ครีมหน้าขาวยี่ห้อหนึ่งแล้วเกิดอาการผิวหน้าพังมีรอยกระด่างกระดำจน
เสียโฉม คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าวว่าเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าว เป็นเครื่อง
สำอางที่มีการลักลอบผลิต โดยนำสารต้องห้ามที่เป็นอันตรายมาใช้ อย.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจ
สอบสถานที่ผลิตตามที่แจ้งในฉลากแล้วพบว่าเป็นสถานที่ตัดเย็บเสื้อผ้า เมื่อตรวจสอบกลับไปยัง
บริษัทผู้ผลิต พบว่าผู้ผลิตได้เลิกกิจการแล้ว
ที่ผ่านมามีเครื่องสำอางหลายยี่ห้ออวดอ้างสรรพคุณว่ามีส่วนผสมของสมุนไพรทำให้ใบหน้าขาวใส
สวยงาม ส่วนใหญ่จะจำหน่ายตามตลาดนัด อย. นำมาตรวจสอบแล้วพบว่ามีสารต้องห้าม อาทิเช่น
ไฮโดรควิโนน กรดวิตามินเอและสารประกอบของปรอท อาจทำให้ผู้ใช้เกิดอาการระคายเคือง หน้า
แดงแสบร้อน เกิดจุดด่างขาวที่ใบหน้า ผิวหน้าดำหรือกลายเป็นฝ้าถาวร รักษาไม่หาย แม้ อย.จะมี
การจับกุมผู้กระทำผิด โดยออกประกาศเตือนเครื่องสำอางที่มีสารอันตรายไปถึง 40 รายการ แต่ก็ยัง
มีผู้บริโภคหลงเชื่อหลงใช้อยู่ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่อ้างว่ามีส่วนผสมสมุนไพรประกอบ
เครื่องสำอางหลายยี่ห้อที่เป็นเครื่องสำอางที่ชอบอวดอ้างว่าใช้แล้วหน้าขาวทำให้สิวฝ้าถูกกำจัดไป
ทำให้หน้าสวยงามพอเจ้าหน้าที่ไปตรวจเข้าก็พบว่ามีสารห้ามใช้ต่างๆ เช่น ไฮโดรควิโนน กรด
วิตามินเอและสารประกอบของปรอท ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารอันตราย ถ้าใช้แล้วมีจะทำให้เกิดอาการ
ที่จะทำให้ใบหน้ามีความผิดปกติเกิดขึ้น อาจเป็นการด่างขาวอย่างถาวร ทาง อย.ได้มีการประกาศ
เป็นสารห้ามใช้แล้วก็มีการดำเนินการกับผู้ผลิตที่ยังฝ่าฝืนในการผลิตสินค้าเหล่านี้ออกจำหน่ายหลาย
รายแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืน ถึงแม้โรงงานจะถูกจับกุมและสั่งปิดก็ตาม โดยการนำเอาสินค้าเหล่านี้
ออกจำหน่ายตามร้านค้าต่างจังหวัด แถมมีการโฆษณาตามสถานีวิทยุท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ได้สั่งแบน
สินค้ายี่ห้อต่างๆ ทั้งหมด 40 รายการ และทาง อย. ขอยืนยันว่าไม่มีสมุนไพรชนิดใดที่ทำให้ใบหน้า
ขาวได้
ไฮโดรควิโนน (hydroquinone)
ไฮโดรควิโนนเป็นสารฟีนอลชนิดหนึ่ง เรียกชื่อทางเคมีว่า benzene-1,4-diol เป็นอนินทรียสารที่มี
สูตรเคมี C6H4(OH)2 ลักษณะโครงสร้างทางเคมีเป็น hydroxyl groups สองกลุ่มเชื่อมต่อกับ
benzene ring ลักษณะการเชื่อมต่อเป็นแบบ para สถานะของไฮโดรควิโนนที่อุณหภูมิห้องและ
ความดันบรรยากาศไฮโดรควิโนนจัดเป็นของแข็งสีขาวเนื้อละเอียด ไฮโดรควิโนนทำปฏิกิริยาอ็อกซิ
เดชั่นเกิดเป็นสารพาราเบนโซควิโนน parabenzoquinone หรือที่เรียกว่า p-quinone
ไฮโดรควิโนนถูกนำมาใช้เป็นสารช่วยลดปริมาณของเม็ดสีในชั้นผิวหนัง แต่ในบางประเทศก็ไม่อนุมัติ
ให้วางจำหน่าย เช่น ฝรั่งเศส เนื่องจากอาจเป็นสารก่อมะเร็งได้ บางประเทศอนุมัติให้วางจำหน่าย
ได้เฉพาะรูปแบบ 2% cream ในบางผลิตภัณฑ์ความเข้มข้นของไฮโดรควิโนนอาจมากถึง 4%
ปัญหาที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การนำไฮโดรควิโนนมาผสมอย่างไม่ถูกต้อง โดยที่ไม่สามารถตรวจ
สอบได้ว่าปริมาณความเข้มข้นมากน้อยเพียงใด และบางรายอาจใช้วัตถุดิบปลอมในการผลิตอีกด้วย
กรดวิตามินเอ (retinoic acid)
ในร่างกายพบว่ามีโมเลกุลของวิตามินเอ 3 ชนิดด้วยกัน คือ retinol, retinal (retinaldehyde) และ
retinoic acid ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากสาร beta-carotene ซึ่งประกอบไปด้วยโมเลกุลของ retinal สอง
โมเลกุลเชื่อมต่อกันเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า provitamin A ปัญหาของการใช้สารกรดวิตามินเอ อยู่ที่
ความเข้มข้นของสารและปริมาณที่ได้รับ แม้ว่าการดูดซึมผ่านทางผิวหนังจะไม่มากเหมือนการดูดซึม
ผ่านระบบทางเดินอาหาร แต่ในบางรายทางการแพทย์ พบว่าผู้ป่วยมีผลขเางเคียงจากฤทธิ์ของยาได้
ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น พบความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการ
สร้างโปรตีนชนิด retinol to aporetinol binding protein (RBP) หรือ ความผิดปกติของยีนที่
ควบคุมการสร้าง cellular retinol binding protein (CRBP)
สารประกอบของปรอท (mercury compunds)
การใช้สารประกอบของปรอทที่สำคัญสองชนิด ชนิดแรกคือ 3% mercuric
iodine และชนิดที่สอง 10% ammoniated mercury ทั้งสองชนิดเป็นสารปรอท
ชนิดอนินทรีย์ ซึ่งเมื่อรวมตัวกับ iodide หรือ chloride เกลือที่เกิดขึ้นจะถูกดูดซึม
ทางผิวหนังอย่างรวดเร็วและในปริมาณที่เป็นพิษได้ ในกรณีที่สารปรอทกิดการ
เปลี่ยนแปลงเป็นสาร methyl mercury สารนี้มีความเป็นพิษสูงมาก โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งพิษต่อระบบประสาทและพิษต่อไต ในบางรายเกิดปัญหาผิวหนังอักเสบ
อย่างรุนแรง บางรายเกิดปัญหาสิวเห่อ ผิวหนังยุบเป็นร่องรอยบนผิวหนัง ผิวด่าง-ดำ
ขอบพระคุณข้อมูลดีๆจาก: http://www.bangkokhealth.com/health/...%E0%B8%A7-1647