ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ จากการที่นักลงทุนกังวลต่ออนาคตทางการเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความสามารถของเขาในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,580.52 จุด ลดลง 30.37 จุด หรือ 0.15%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลงนำตลาดวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในเดือนนี้นับตั้งแต่เดือนม.ค.2016 และปรับตัวลงในสัปดาห์นี้มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 370 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ ภายหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการแทรกแซงการดำเนินงานของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (fbi) หลังจากที่เขาสั่งปลดนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ fbi และยังได้สั่งการให้นายโคมีย์ยุติการสืบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กับรัฐบาลรัสเซีย
สำหรับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในวันนี้นั้น วอล-มาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.00 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 96 เซนต์/หุ้น และสูงกว่าระดับ 98 เซนต์/หุ้นที่ทำไว้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 1.4% สู่ระดับ 1.1754 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.1774 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ยอดขายด้านอี-คอมเมิร์ซของบริษัทพุ่งขึ้น 63% เทียบกับ 29% ที่ทำไว้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 232,000 ราย สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 240,000 ราย
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 115 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970