ปวดท้องน้อย ปวดท้องประจำเดือน ปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ ปวดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ปวดบีบๆ

ร่วมกับอาการปวดของลำไส้แปรปรวน เช่น ปวดบีบ ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย เวลาที่มีการ

เคลื่อนไหวของลำไส้มีอาการปวด ปวดเสียด ปวดหลัง ปวดร้าวลงขา ปัสสาวะบ่อย รวมถึงมีบุตรยาก

Name:  stomachache.JPEG
Views: 839
Size:  46.7 KB

อาการเหล่านี้มักจะรบกวนต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การทำกิจวัตรประจำวัน บางครั้ง

สามารถจะตรวจหาสาเหตุของโรคได้ ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น ตรวจภายใน หรือ ทำ Ultrasound บางครั้ง

อาการปวดเหล่านี้ไม่สามารถที่จะหาสาเหตุได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจ Ultrasound หรือ X-Ray ซึ่งจะ

พบว่าปกติ จึงทำให้ผู้หญิงมีความทุกข์ทรมาน จากความเจ็บปวด ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ สูญ

เสียตำแหน่ง หน้าที่ การงาน เพราะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่


อาการทั้งหลายเหล่านี้ บอกอะไรเรา เราจะสามารถตรวจหาสาเหตุได้อย่างไร รวมถึงมีการรักษาอย่างไร

อาการเหล่านี้ เมื่ออธิบายรวมๆ กันก็จะพบว่า เป็นอาการแสดงอย่างหนึ่ง เรียกว่า Endometriosis

(เอ็นโดเมททริโอซิส) ผังผืด หรือ Chocolate Cyst (ช็อคโกแล็ตซิสต์) และ Adenomyosis (แอดดี

โนมัยโอซิส)


ทำไมเรียกชื่อต่างกัน

Endometriosis คือ ภาวะของเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งเจริญผิดที่ ปกติแล้วเยื่อบุโพรงมดลูกจะอยู่

ภายในโพรงมดลูก แต่ในกรณีนี้จะมีการไหลย้อนของเยื่อบุโพรงมดลูกเข้าไปในช่องเชิงกราน ไปฝัง

ตัวบริเวณด้านหลังมดลูก, รังไข่, ลำไส้, ขาของตัวมดลูก (Utero-Sacral Ligament), ตัวมดลูก, ไต,

ปอด เมื่อมีการไหลย้อนออกไป และมาฝังตัวภายนอก บริเวณที่พบได้บ่อย คือ รังไข่ เนื่องจาก

บริเวณรังไข่ เป็นบริเวณที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง (Estrogen) จึงเหมาะในการเจริญเติบโต เยื่อบุ

โพรงมดลูกก็จะถูกกระตุ้นเหมือนกับเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ในโพรงมดลูกเช่นกัน และเมื่อถึงเวลาที่

พร้อมจะมีเลือดออกและเป็นประจำเดือน ก็จะมีเลือดออก แต่จะไม่มีทางออก เพราะภายในช่องท้อง

เป็นช่องที่ตัน ไม่มีทางติดต่อภายนอกได้ ก็จะทำให้เกิดการคั่งสะสมของเลือดบริเวณรังไข่ และจะโต

ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปล่อยทิ้งไว้ สีเลือดในรังไข่ก็จะเปลี่ยนสี เนื่องจากเป็นเลือดเก่า เปรียบเหมือนสีช็อค

โกแล็ต จึงเรียกว่า ช็อคโกแล็ตซีสต์ (Chocolate Cyst)

ส่วนเยื่อบุโพรงมดลูกที่แทรกเข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูกก็จะกระตุ้นให้เกิดเป็นผังผืด หรือ ก้อนใน

กล้ามเนื้อมดลูก เนื่องจากกล้ามเนื้อมดลูกค่อนข้างแข็ง เพราะฉะนั้น จึงไม่เป็น Cyst เราเรียกภาวะนี้

ว่า Adenomyosis ซึ่งจะก่อให้เกิดภาวะปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ประจำเดือนมามาก มีบุตร

ยาก ตามมา

ในกรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกฝังตัวบริเวณขาของตัวมดลูก (Utero-Sacral ligament) ถึงจะมีการฝังราก

ลึกลงไปก่อให้เกิดผังผืด ปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ปวดหลัง ปวดร้าวลงขา ปวดเวลาขับถ่าย

ซึ่งในบางครั้ง เราไม่สามารถตรวจพบโดยการ Ultrasound นอกจาก MRI หรือตรวจภายใน แล้ว

สงสัยและใช้วิธีส่องกล้องเข้าไปในช่องท้องเพื่อวินิจฉัยภาวะนี้

ปกติแล้วส่วนใหญ่เวลาเป็นประจำเดือนมักมีเลือดเข้าไปในช่องเชิงกราน แต่ภาวะ Endometriosis นี้

ไม่ได้เกิดกับทุกคน อาจเกิดเนื่องจากภาวะภูมิคุ้มกันบางอย่าง ความเครียด ขนาดของพยาธิสภาพ

(cyst) ไม่สัมพันธ์กับอาการที่ปวด บางคนมีก้อนซีสต์โตมาก แต่ไม่มีอาการเลยก็ได้


ทำอย่างไร เราจึงจะทราบว่าเรามีโรคชนิดนี้

การสืบค้นหาโรคนี้สามารถทำได้โดยการ

ซักประวัติ โดยมีอาการที่กล่าวถึง คือ
- ปวดท้องน้อยเป็น ๆ หาย ๆ

- ปวดท้องประจำเดือน ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือปวดมากจนรบกวนต่อการดำรงชีวิตและการทำงาน เช่น ปวดแล้วต้องหยุดงาน ปวดจนเป็นลม

- มีบุตรยาก แท้งบ่อย ตั้งครรภ์นอกมดลูก

- มีอาการของลำไส้แปรปรวน IBS คือ ปวดท้องบีบ ๆ ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก ปวดมากเวลาขับถ่าย ปวดเสียดในท้อง

- ปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ ปวดหลังจากมีเพศสัมพันธ์

- ปวดหลัง

- ปวดร้าวลงขา

- ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด

- ปัสสาวะเป็นเลือด, ปัสสาวะบ่อย
ตรวจภายใน เจ็บบริเวณปากมดลูกเมื่อโยกมดลูก เจ็บด้านหลังของตัวมดลูก, ปรุประ, คลำก้อนได้

Ultrasound พบมดลูกโต, มีก้อนที่ปีกมดลูก หรือ Ultrasound แล้วปกติ

MRI

Diagnostic Laparoscopy ส่องกล้องเข้าไปในช่องท้อง เพื่อตรวจวินิจฉัยว่ามีก้อนงอกบริเวณมดลูก ปีกมดลูก รังไข่ ลำไส้ หรือ Ultrasound Ligament หรือไม่


การรักษา

ขึ้นอยู่กับอายุ พยาธิสภาพ ความต้องการมีบุตร ซึ่งอาจเป็นการใช้ยาแก้ปวด ฮอร์โมน หรือการผ่าตัด

ซึ่งมีทั้งการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง และส่องกล้องผ่าตัด ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษา


ขอบพระคุณข้อมูลดีๆจาก: พญ.กิตติกานต์ นิ่มตระกูล (คลินิกสูตินรีเวช)
ที่มา: http://www.bangkokhealth.com/health/...%E0%B8%99-1759