การออกกำลังกายในลักษณะต่างๆ
1. ลักษณะของการออกกำลังกายที่มีการใช้ออกซิเจนในระยะสั้น ร่างกายของผู้ที่ปฏิบัตินั้นจะมีการเคลื่อนที่ที่มีความเร็ว ระบบการหายใจนั้นให้มีออกซิเจนเข้าและออกน้อยที่สุด หรือถ้าเป็นลักษณะในการเคลื่อนที่ในระยะทางที่สั้นๆนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายในลักษณะของการวิ่งนั้นให้กลั้นลมหายใจในขณะทำการวิ่งอยู่เพื่อให้มีการเพิ่มความเร็วของการวิ่งนั้น เช่น การวิ่งแข่ง 100 เมตร แต่ถ้าเป็นประเภทของกีฬา คือการว่ายน้ำในระยะทางที่สั้น เป็นต้น
2. การออกกำลังกายที่ดึงออกซิเจนเข้ามาภายในร่างกายให้มากที่สุด ได้แก่ การออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆของร่างกายที่มีการเคลื่อนที่ที่ไม่ใช้ความเร็วมากๆเป็นลักษณะของการเคลื่อนที่พอประมาณแล้วค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นเป็นไปตามลำดับแล้วได้ความเร็วที่คงที่แล้วในช่วงระยะเวลาหนึ่งอย่างน้อย 140 ขึ้นไปโดยประมาณ เมื่อร่างกายมีการหายใจเพื่อนำออกซิเจนนั้นเข้าไปภายในร่างกายใช้ในการสร้างพลังงานเพิ่มขึ้นกว่าระดับปกติมาก จึงเป็นสาเหตุให้ระบบการหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตมีการทำงานที่หนักขึ้นในระยะเวลาหนึ่ง จึงทำให้ร่างกายมีความทนทานของระบบการทำงานนี้ ลักษณะในการออกกำลังกายได้แก่ การเต้นในจังหวะต่างๆที่มีการเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอ การว่ายน้ำที่เน้นระยะทาง การวิ่งมาราธอน การเดินเร็ว เป็นต้น การออกกำลังกายในลักษณะนี้จะช่วยในเรื่องงของระบบการหายใจ และระบบการไหลเวียนโลหิต นักกีฬาที่มีการแข่งขันที่ใช้ความเร็วในการแข่งขัน เช่น การวิ่งแข่งขันด้วยความเร็ว การว่ายน้ำด้วยความเร็ว เป็นต้น จึงทำให้ระบบความทนทานต่อระบบนี้ด้วย ในลักษณะของการฝึกนั้นต้องมีการฝึกแบบแอโรบิคควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อให้ระบบการหายใจที่ใช้ออกซิเจนไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น
การออกกำลังกายรักษาโรค
เมื่อมีการทำงานในแต่ล่ะวันนั้นผู้ที่ปฏิบัติงานจึงเป็นสาเหตุของการเป็นโรคต่างๆได้และที่เป็นโรคที่นิยมมากที่สุด คือโรคปวดหลังและปวดเอว ซึ่งทางมองถึงเรื่องของวิทยาศาสตร์นั้นคนส่วนมากนั้นไม่มีโรค แต่เป็นลักษณะงานที่ทำนั้นไม่ถูกต้องตามหลักการ
จึงเป็นสาเหตุของการปวดหลังและปวดเอวได้ เช่น อาชีพของการทำนา ยกของ แบกหาม ซึ่งบุคคลที่มีอาชีพเหล่านี้ได้มีการทำงานมาอย่างยาวนาน และแพทย์ทั้งหลายก็ทราบกันดีว่าผู้บริหารสาธารณสุขก็รู้ปัญหา แต่ในทางกลับกันการแก้ไขปัญหาต่างๆนั้นยังไม่เป็นขั้นเป็นตอนหรือการทำนั้นยังไม่เด่นชัดเพราะองกรคิดว่าเป็นปัญหาเล็กๆไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่และไม่มีอาการร้ายแรงอะไร แต่บุคคลเหล่านี้อาจมีผลกระทบได้ถึงระบบการทำงานและที่หนักเข้าไปอีกคือ ประสิทธิภาพของการทำงานที่ลดลง ดังนั้นปัญหาโรคนี้จึงเป็นปัญหาที่ใหญ่ของคนทำงาน จึงอยากให้ทางฝ่ายรัฐบาลมาเข้าช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อมาทำการวางแผน รณรงค์ให้ผู้ที่ปฏิบัติงานมีความรู้อย่างถูกวิธีในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการใช้หลังและเอวในการปฏิบัติงาน เช่นการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพทางกายให้ความเข้าใจที่ง่ายที่สุด และให้ความรู้ในการใช้เงินมาซื้อยาแก้ปวดหลังปวดเอวไปรับประทานในกรแก้ไขปัญหาอาการปวดหลังและเอว
ในทางกลับกันผู้นำชุมชนควรให้ลูกบ้านนั้นทำกิจกรรมกันในเวลาช่วงเย็นเช่น การเต้นแอโรบิค การออกกำลังเล็กๆน้อยๆ และมีการส่งเสริมทางกายด้านอื่นๆประกอบไปด้วยที่เป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นแก่วิชาชีพ และให้มีความพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะดีขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน และมีสุขภาพที่ดี
ที่มา: http://connectlearningcentre.com/%E0...9%88%E0%B8%B2/