ศิลปะการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นแขนงไหนก็ตาม เป็นธรรมดาที่จะมีคนคิดแตกยอดออกไปจากตำราดั้งเดิม อย่างคาราเต้เองแม้ว่าภายนอกจะเหมือนกัน แต่ก็มีแยกย่อยออกไปอีกหลายแขนงหลายสำนัก ขึ้นอยู่กับแนวคิดของแต่ละคน คาราเต้ เองก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ศิลปะการต่อสู้แขนงนี้แบ่งออกเป็นหลายสายด้วยกัน
คาราเต้แบ่งออกเป็นกี่สาย
สำหรับวงการคาราเต้ หากจะนับรวมทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 5 สายหลักด้วยกันคือ โชโตกัน , โกจูริว, ชิโตริว, วาโดริว และ เคียวคุชินไค แต่ละสายก็มีความโดดเด่นในรูปแบบของตัวเองแตกต่างกันไป ส่วนในบ้านเรามีการนำเข้ามาเพียงแค่ 2 สายคือ สายโชโตกัน และ สายโกจูริว
คาราเต้สายโชโตกัน
คาราเต้สายโชโตกัน เป็นสายหนึ่งที่เข้ามาในบ้านเรา สายนี้มีประวัติบันทึกไว้คร่าวว่าๆเริ่มต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ที่หมู่เกาะริวกิว ตอนนั้นได้มีการแลกขายเปลี่ยนสินค้ากับจีน นั่นทำให้วัฒนธรรมต่างๆถูกแพร่หลายเข้ามาด้วย หนึ่งในนั้นคือกังฟูของจีนมาที่เกาะ แล้วก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นศิลปะป้องกันตัวของเกาะริวกิวหรือเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้นั่นเอง จากนั้นก็มีการพัฒนาเผยแพร่เรื่อยมาทั้งในและต่างประเทศ จนมาถึงบ้านเราเริ่มเข้ามาในปี 2506-2507ตอนนั้นได้มีโอกาสแสดงสาธิตคาราเต้ต่อหน้าพระที่นั่งสมเด็จพระบรมโอสาธิราชสยามมกุฏราชกุมารอีกด้วย แล้วก็ก่อตั้งชมรม สมาคม จนถึงจัดแข่งขันคาราเต้ในระดับต่างๆเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อย่างเช่นการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ การแข่งซีเกมส์ การแข่งเอเชียนเกมส์ เป็นต้น
คาราเต้สายโกจูริว
ส่วนคาราเต้อีกสายหนึ่งมีชื่อว่า สายโกจูริว ประวัติความเป็นมาต้องเริ่มจากปรมาจารย์ของสายนี้อย่างท่านอาจารย์มิยากิ โชจุน ไปเป็นลูกศิษย์เพื่อฝึกวิชาการต่อสู้ที่มีชื่อว่า นาฮาเต้ ของท่านอาจารย์คันริว ฮิโกชิออนนะ ตั้งแต่อายุได้ 9 ปี เมื่อศึกษาวิชาได้ระยะเวลาหนึ่งอาจารย์คันริวได้เสียชีวิตลง นั่นทำให้ อาจารย์มิยากิ ได้ออกเดินทางเพื่อสะสมประสบการณ์และฝึกฝนตนเอง ท่านเดินทางไปฝึกฝนที่ประเทศจีนเพื่อตามรอยอาจารย์ของท่าน ที่นั่นท่านได้เข้าไปฝึกฝนวิชามวยที่เส้าหลิน ท่านได้มีการนำทักษะทั้งสองอย่างมาผสมผสานกันจนกลายเป็น คาราเต้โกจูริว ส่วนผสมดังกล่าวคือการนำความแข็งแกร่ง และอ่อนช้อยมารวมกันเป็นศิลปการต่อสู้สายนี้นั่นเอง
การต่อสู้ของคาราเต้โกจูริวนอกจากการออกอาวุธแล้ว จะเน้นไปที่การป้องกัน ปัด กดข้อ เอาไว้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่แตกต่างจากคาราเต้สายอื่นอยู่พอสมควร เมื่อท่านปรมาจารย์มิยากิได้เสียชีวิตลงได้มีลูกศิษย์ทั้งหมด 4 ท่านด้วยกัน หนึ่งในนั้นชื่อว่า Gogen Yamaguchi ได้เป็นผู้นำเข้าคาราเต้สายนี้เข้ามาในไทย
ที่มา: https://kleinbonaire.org/content-and-sports/19/