สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั่วไปของฟิลิปปินส์

[Toy]

รายงานข้อมูลประเทศฟิลิปปินส์ในวันศุกร์

ประเทศฟิลิปปินส์จะนำเสนอชุดข้อมูลออกมาในวันศุกร์ โดยเป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเดือนตุลาคม ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลการจ้างงานในไตรมาส 4 การผลิตภาคอุตสาหกรรมลงไป 11.9% ในเดือนกันยายนของปีนี้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นถึง 0.3% ในเดือนนี้และ 2.5% ในรอบปีของเดือนตุลาคม อัตราการว่างงานในไตรมาสสามอยู่ที่ 10.0% ประเทศออสเตรเลียจะพบรายงานตัวเลขยอดการค้าปลีกในเดือนตุลาคม โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 1.6% ในเดือนนี้ หลังจากที่ลดลงไปยัง 1.1% ในเดือนกันยายน ประเทศเกาหลีใต้จะนำเสนอตัวเลขของเดือนตุลาคมเกี่ยวกับบัญชีกระแสรายวัน การเกินดุลในบัญชีเดินสะพัดในเดือนกันยายนอยู่ที่ 10.21 พันล้านดอลลาร์ ประเทศสิงคโปร์จะนำเสนอตัวเลขยอดการค้าปลีกของเดือนตุลาคม ยอดการขายในเดือนกันยายนลงไปยัง 4.5% ในเดือนนี้และ 10.8% ในรอบปี ประเทศไทยจะพบรายงานตัวเลขราคาผู้บริโภคของเดือนพฤศจิกายน อัตราเงินเฟ้อโดยรวมในเดือนตุลาคมลดลงไปถึง 0.5% ในรอบปีและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มมาเป็น 0.19% ต่อปี

[Toy]

จีดีพีของประเทศฟิลิปปินส์ลด 11.5% ในรอบปีของไตรมาสสาม

สำนักงานสถิติของประเทศฟิลิปปินส์นำเสนอข้อมูลออกมาในวันอังคารว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของประเทศฟิลิปปินส์หดตัวไป 11.5% ในรอบปีของไตรมาสที่สามในปี 2020 มันไม่ตรงกับการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลงไป 9.8% ตามการหดตัวถึง 16.9% ในช่วงสามเดือนก่อนหน้า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่ปรับตามไตรมาสของฤดูกาลได้เพิ่มขึ้น 8.0% แทบไม่ตรงกับการคาดการณ์ตามการปรับตัวลง 15.2% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

[PatCKY.CH24]

การขาดดุลทางการค้าของประเทศฟิลิปปินส์หดตัวลงในเดือนกรกฎาคมจากปีที่ผ่านมา การส่งออกลดลง 9.6% ในรอบปีแต่ยังน้อยกว่าการลดลงของเดอนมิถุนายนใน 12.5% นับว่าเป็นการลดลงในการขนส่งถึงห้าครั้งติดต่อกัน ขณะเดียวกันการนำเข้าลดลง 24.4% เมื่อเทียบกับการลดลงในเดือนมิถุนายนใน 23.1% เลยทำให้การขาดดุลทางการค้าหดตัวลง 1.83พันล้านดอลลาร์จากเดิมใน 3.64พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

[Toy]

รายงานการตัดสินใจในอัตราดอกเบี้ยของประเทศฟิลิปปินส์ในวันพฤหัสบดี

ธนาคารกลางของประเทศฟิลิปปินส์จะสรุปการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดี จากนั้นจะประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ที่เป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารกลางคาดว่าจะยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้เหมือนเดิมใน2.25% ไต้หวันจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของเดือนกรกฎาคม เกี่ยวกับคำสั่งการส่งออกและตัวเลขไตรมาสสองเกี่ยวกับบัญชีเดินสะพัด คำสั่งการส่งออกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.7% ในรอบปี ซึ่งชะลอตัวลงมาจาก 6.5% ในเดือนมิถุนายน ดุลบัญชีเดินสะพัดมีการเกินดุลในไตรมาสที่ 1 ที่ 18.16 พันล้านดอลลาร์ ฮ่องกงจะพบรายงานตัวเลขเกี่ยวกับราคาผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคม อัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบปี ตลาดในมาเลเซียและอินโดนีเซียจะปิดทำการในวันพฤหัสบดี เนื่องจากเป็นวันปีใหม่ของอิสลาม และจะเปิดทำการในวันศุกร์

[Toy]

รายงานข้อมูลจีดีพีของประเทศฟิลิปปินส์ออกมาในวันพฤหัสบดี

ในวันพฤหัสบดีประเทศฟิลิปปินส์จะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของไตรมาสสอง เกี่ยวกัลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งเป็นวันที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ตัวเลข gsp ลดลง 5.1% ในรอบไตรมาสและ 0.2% ต่อปี ประเทศเกาหลีใต้จะนำเสนอตัวเลขของเดือนมิถุนายน เกี่ยวกับบัญชีเดินสะพัด การเกินดุลในบัญชีเดินสะพัดของเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 2.29 พันล้านดอลลาร์ ประเทศไต้หวันจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับราคาผู้บริโภค และราคาขายส่งของเดือนกรกฎาคม โดยในเดือนมิถุนายนราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.39% ในรอบเดือน และลดลงไป 0.76% ต่อปี ขณะที่ราคาการขายส่งลดลง 10.36% ต่อปี ประเทศอินโดนีเซียจะพบกับายงานของเดือนกรกฎาคมเกี่ยวกับ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตัวเลขดัชนีของเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 83.8 ประเทศไทยจะนำเสนอข้อมูลตัวเลขของเดือนกรกฎาคม เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการว่างงาน โดยในเดือนมิถุนายนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 49.2 และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.0%

[Yellowjixn]

อัตราเงินเฟ้อของประเทศฟิลิปปินส์ลดลงไปสองเดือนติดต่อกัน พอมาถึงเดือนมีนาคม อัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปลดลง 2.5% ในเดือนมีนาคมจากเดิมในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 2.6% โดยการปรับตัวลงนั้นเกิดขึ้นจากราคาใน การขนส่ง, เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่, ที่อยู่อาศัย, ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า, ก๊าซ และเชื้อเพลิงอื่นๆ นอกจากนั้นอัตราเงินเฟ้อโดยรวมในรอบปีจนถึงวันนี้คือ 2.7% โดยมีอัตราพื้นฐานอยู่ที่ 3.2%

[Toy]

อัตราเงินเฟ้อของประเทศฟิลิปปินส์ลดลงไปในเดือนกุมภาพันธ์

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติของประเทศฟิลิปปินส์ที่ได้นำเสนอข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่า ข้อมูลเงินเฟ้อของประเทศฟิลิปปินส์ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ในเดือนก่อนหน้านี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 2.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากเดิมใน 2.9% ในเดือนมกราคม โดยในเดือนธันวาคมพบว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% ราคาในอาหาร และเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์, เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่, การสร้างบ้าน, น้ำ, ไฟฟ้า, ก๊าซ แล้วเชื้อเพลิงอื่นๆ มีการปรับตัวลง หากไม่รวมรายการอาหาร และพลังงานที่เลือกไว้นั้น อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวลงไปใน 3.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากเดิมใน 3.3% ในเดือนก่อนหน้านี้ อัตราเงินเฟ้อโดยทั่วในรอบปีอยู่ที่ระดับ 2.8% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 3.2% ราคาผู้บริโภคในรอบเดือนลดลงไป 0.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.5% ในเดือนก่อนหน้านี้

[Toy]

อัตราเงินเฟ้อของประเทศฟิลิปปินส์ลดลงไปสู่ระดับต่ำสุด ในรอบมากกว่า 3 ปี

ข้อมูลตัวเลขจากสำนักงานสถิติของประเทศฟิลิปปินส์ที่นำเสนอออกมาในวันศุกร์ว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศฟิลิปปินส์ลดลงไปสู่ระดับต่ำสุด ในรอบมากกว่าสามปีในรอบเดือนกันยายน โดยส่วนใหญ่มาจากราคาอาหาร อัตราเงินเฟ้อในส่วนของราคาผู้บริโภคชะลอตัวลงไปที่ 0.9% ในเดือนกันยายนจากเดิมที่ระดับ 1.7% ในเดือนสิงหาคม ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับ 6.7% อัตราล่าสุดอยู่ในระดับที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 และต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ระดับ 1.1% หากไม่คิดคำนวณรวมกับรายการอาหาร และพลังงานที่เลือกมา อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวลงไปที่ 2.7% จากเดิมใน 2.9% ในเดือนที่ผ่านมา ราคาอาหารลดลงไป 1.3% ต่อปี ในขณะเดียวกันราคาเสื้อผ้า และรองเท้า ปรับตัวน้อยกว่าเดิมใน 2.7% และต้นทุนด้านที่อยู่อาศัย และค่าสาธารณูปโภคอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาเป็น 0.8% ธนาคารกลางของประเทศฟิลิปปินส์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญลงไปหนึ่งในสี่ จากที่ผ่านมาสองครั้งติดต่อกันที่ได้ระบุถึงการลดอัตราเงินเฟ้อลงไปในเดือนกันยายน ธนาคารกลางคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวภายในช่วงครึ่งล่างของขอบเขตเป้าหมายที่ระดับ 2-4% จนถึงปี 2021

[Toy]

ฟิลิปปินส์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญเนื่องจากการเติบโตของ GDP ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤษภาคมหลังจากข้อมูลทางการแสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นอ่อนแอที่สุดในรอบสี่ปีในไตรมาสแรกของปีนี้ คณะกรรมการการเงินนำโดยผู้ว่าการเบนจามินดีโอโนะตัดสินใจลดอัตราการซื้อคืนกลับคืนแบบค้างคืนลง 25% สู่ระดับ 4.5% แถลงการณ์จากกลุ่มผู้รายงานของฟิโก นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าธนาคารจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ในเดือนพฤศจิกายนธนาคารได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเกณฑ์มาตรฐาน 25 คะแนนเป็น 4.75% การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559 เมื่อมีการปรับลดลงหลังจากการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงาน สัปดาห์นี้มาเลเซียและนิวซีแลนด์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญขณะที่ออสเตรเลียและไทยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาข้อมูลทางการแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวเพียง 5.6% ในไตรมาสแรกซึ่งเป็นอัตราที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 "การตัดสินใจของคณะกรรมการการเงินขึ้นอยู่กับการประเมินว่าแนวโน้มเงินเฟ้อยังคงสามารถจัดการได้ แรงกดดันเนื่องจากราคาอาหารลดลงท่ามกลางภาวะอุปทานที่ปรับตัวดีขึ้น "BSP กล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัด Diokno กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าผู้กำหนดนโยบายจะหารือเกี่ยวกับการลดอัตราส่วนความต้องการสำรองในไม่ช้า ธนาคารคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่จะชำระภายในช่วงเป้าหมายที่ร้อยละ 3.0? ธนาคารชี้ว่า 1.0 คะแนนร้อยละสำหรับทั้งปี 2562 และ 2563 "ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สมดุลในปี 2562 ท่ามกลางความเสี่ยงจากเหตุการณ์เอลนีโญที่ยืดเยื้อและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงเกินคาด" "ในปี 2563 ความเสี่ยงยังคงลดลงต่อเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอลงอาจกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์" อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงเหลือ 3% และการขยายตัวของราคาหลักชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.4% ในเดือนเมษายน อเล็กซ์โฮล์มส์นักเศรษฐศาสตร์จากทุนระบุว่าเนื่องจากแนวโน้มเงินเฟ้อและความคิดเห็นของ BSP ในวันนี้ทำให้นโยบายผ่อนคลายลงในปีนี้น่าจะรุนแรงกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้ "ตอนนี้เราคาดว่าจะมีการปรับลดเพิ่มอีกสองครั้งก่อนสิ้นปีนี้"

[Toy]

รายงานจากสถาบัน Nikkei : ระดับการผลิตของประเทศฟิลิปปินส์ชะลอตัวลงไปในเดือนเมษายน

ผลการสำรวจล่าสุดจากสถาบัน Nikkei ที่ได้ออกมานำเสนอข้อมูลออกมาในวันพฤหัสบดีว่า ภาคการผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในเดือนเมษายน แม้ว่าเกิดขึ้นในอัตราที่น้อยลงก็ตามที่ โดยมีดัชนี PMI ด้านการผลิตจากระดับต่ำในรอบ 9 เดือนที่ระดับ 50.9 ซึ่งลดลงไปจากเดิมที่ระดับ 51.5 ในเดือนมีนาคม แล้วก็ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าแนวเส้นขึ้นและลงในระดับ 50 ที่ได้แยกการขยายตัวออกจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ หากคิดตามประเภทแล้วจะพบว่า การเติบโตของผลผลิต ลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ในขณะที่ คำสั่งซื้อสินค้าใหม่ เพิ่มขึ้นมาในอัตราที่น้อยที่สุด นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค่าใช้จ่ายในการขาย ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน้อยที่สุด ในรอบเกือบสองปี