1. ตั้งเป้าไม่สูงเกิน
ลองตั้งเป้าหมายแบบเป็นจริงและไม่ไกลเกินไป มากกว่าไปตั้งเป้าใหญ่แล้วทำไม่ได้ตามนั้น อาจเริ่มตั้งเป้าว่า ในหนึ่งอาทิตย์จะออกกำลังกายสัก 3 วัน หากคุณทำได้มากกว่านั้นก็ถือเป็นโบนัส แล้วจะทำให้รู้สึกดีที่ทำได้เกินกว่าที่ตั้งใจ
2. บันทึกความเปลี่ยนแปลง
จดบันทึกการออกกำลังกายในแต่ละวัน หรือจะทำบันทึกออนไลน์ ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี อย่างเช่น สุขภาพที่ดีขึ้น หุ่นที่เริ่มกระชับ น้ำหนักที่หายไป ฯลฯ ล้วนช่วยเป็นกำลังใจให้ตัวเองได้อย่างดีว่าเราทำได้
3. สร้างแรงจูงใจ
หาแก๊งหรือเพื่อนมาร่วมออกกำลังกายด้วยกัน จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจมากขึ้นในการไปออกกำลังกาย เพราะมีเพื่อนคอยช่วยกันผลักดัน และยังช่วยให้ไม่รู้สึกว่าการออกกำลังกายน่าเบื่ออีกด้วย
4. หาสไตล์ของตัวเอง
การออกกำลังกายนั้นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะโยคะ ว่ายน้ำ เข้ายิม เต้นลีลาศ หรือแจ๊สแดนซ์ ซึ่งคุณอาจจะลองหากิจกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวคุณและที่คุณชื่นชอบ เพื่อช่วยกระตุ้นการลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวร่างกายของคุณให้น่าสนใจมากขึ้น
5. หาผู้ช่วย
หลายคนอยากออกกำลังกาย แต่บางทีก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน หรือจะตรงกับความต้องการหรือไม่ ก็อาจจะต้องหาที่ปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นเทรนเนอร์ตามสถานที่ออกกำลังกายต่าง ๆ เพื่อให้แนะนำวิธีออกกำลังกายให้เป็นไปตามเป้า และยังช่วยกระตุ้นให้คุณไม่ขี้เกียจอีกด้วย
6. ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์
ความขี้เกียจในการออกกำลังกาย หลายครั้งมาจากความรู้สึกของการที่ต้องทำเพิ่ม แต่หากลองหากิจกรรมให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ดูล่ะ อย่างเช่น หากคุณเป็นคนรักสุนัข ก็อาจพาเจ้าสุนัขสุดรักออกมาวิ่งพร้อมกัน หากคุณเป็นพ่อหรือแม่ก็อาจชวนครอบครัวมาปั่นจักรยานหรือไม่ก็วิ่งพร้อมกัน ก็จะทำให้เป็นกิจกรรมที่ไม่ใช่แค่คุณคนเดียว แต่เป็นสิ่งที่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และตั้งตารอจะทำร่วมกัน ซึ่งก็ทำให้คุณเบี้ยวไม่ได้
การออกกำลังกายถ้าเลือกและปรับจูนให้เหมาะกับตัวคุณ เชื่อเถอะว่าจะกลายเป็นเรื่องสนุกที่คุณลืมคำว่า "เบื่อ" ไปเลยค่ะ
บทความคุณภาพจาก .. http://women.thaiza.com/