ด้าย: 
Subscribe
ในเกมแข่งขันปกติ คุณอาจจะใช้ทักษะลูกหนังมากกว่า แต่ถ้าเป็นการยิงจุดโทษ เรื่องหัวจิตหัวใจ - จิตวิทยา ย่อมมาเหนือ ที่ต่างประเทศ มีศึกษาประเด็นนี้อย่างจริงจังว่า มีอะไรบ้าง? ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว ในการยิงจุดโทษ
หนึ่งในนั้นคือ อินเนอร์ ไดรฟ์ บริษัทฝึกสอนชุดความคิดด้านการศึกษา, ธุรกิจ และกีฬา ที่ได้ทำงานกับนักกีฬาดังมากมาย
โดยพวกเขารวบรวมข้อมูลในประเด็นของจิตวิทยาและการยิงจุดโทษ แล้วจำแนกออกมาเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ 10 หัวข้อ
1. การอาสาเป็นมือสังหารคนแรก
วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน เปิดเผยว่า ทีมไหนที่ยิงเป็นทีมแรก ทีมนั้นมีโอกาสชนะสูงถึง 60.5 %
ความน่าสนใจของการยิงก่อน ยังรวมไปถึงแบบรายบุคคลที่พบว่า คนแรก จะมีความกดดันน้อย และมีโอกาสยิงเข้ามากที่สุด
ต่างจากคนยิงในลำดับถัดมา ซึ่งต้องแบกรับความกดดันจากคนที่ยิงก่อน และความกดดันของตัวเองไปด้วยในเวลาเดียวกัน
2. ทำตัวให้ผ่อนคลาย หายใจให้ลึก
ถ้าคนแรกยิงเข้าไป คุณที่เป็นคนยิงในลำดับต่อมา ก็จะพลาดไม่ได้เช่นกัน หรือถ้าคนแรกพลาด คุณก็จะยิ่งพลาดไม่ได้เลย
และ Journal of Sports Sciences ระบุเลยว่า ถ้าไม่ลดความตึงเครียดลง ประสิทธิภาพในการยิงจุดโทษ จะตกลงถึง 76%
ผลมาจากการหายใจที่ไม่ปกติ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ อันมีผลมากกับการจัดระเบียบร่างกาย รวมไปถึงการยิง
3. อย่าไปห่วงเรื่องผู้รักษาประตูมาก
หนึ่งในการลดความกดดัน หรือประหม่าระหว่างยิงจุดโทษ คือ ไม่ต้องจ้องมองไปยังผู้รักษาประตู หรือมองได้ แต่อย่านานมาก
โดยมีข้อมูลจาก ResearchGate ชี้ว่า การจ้องมอง หมายถึงคุณมีความวิตกกังวลจากความอยากเดาใจ ถ้าเป็นไปได้ อย่าสนใจ
เพราะผลวิจัยจากการยิงจุดโทษประมาณ 167 ครั้ง พบว่า ใครทำแบบนั้น มีโอกาสพลาดมากกว่า จิตใจควรจดจ่อกับเป้าหมาย
4. เล็งมุมยิงไว้ และอย่าได้เปลี่ยนใจ
การเลือกเล็งมุมยิงเอาไว้ หมายถึงความหนักแน่น มั่นคง และมีเป้าหมายชัดเจน แต่ถ้าเปลี่ยนใจ นั่นหมายถึงคุณกำลังวอกแวก
การเปลี่ยนใจ จะดึงคุณเข้าโหมดความโลเล, กดดัน, ทักษะที่ลดต่ำลง จากความสับสนในแผนการใช้ร่างกาย ซึ่งสลับไปมา
ส่วนการเล็งเป้าในวินาทีสุดท้าย เพื่อรอให้ผู้รักษาประตูขยับตัวนั้น มีโอกาสพลาดสูงมากเช่นกัน จากข้อมูลของ bases.org.uk
5. เลือกเป้าตรงเหลี่ยมมุมของประตู
การเลือกมุมที่มั่นใจ ก็เป็นเรื่องดี โดยเฉพาะการยิงบอลให้สูงเข้าไว้ เพราะผู้รักษาประตูส่วนใหญ่ จะพุ่งไปไม่ทันหรือไม่ถึง
เหลี่ยมมุมด้านบนของประตู คือ เป้าหมายที่ดีสุด ถ้าสามารถยิงได้ เพราะนั่นจะทำลายความมั่นใจของผู้รักษาประตูได้มาก
อย่างเช่น ในยูโร 96 เกมระหว่างเยอรมนีกับอังกฤษ 9 ใน 11 ลูกจุดโทษที่ยิงเข้า ล้วนแล้วแต่เข้าที่เหลี่ยมมุมบนของประตู
6. ก่อนยิง ยืนนิ่งสักวินาที ค่อยวิ่งไป
มีผลวิจัยพบว่า ความรีบร้อน ในการวิ่งปรี่เข้าไปยิง ระดับ 200 มิลลิวินาที ทำให้ความสำเร็จในการยิงจุดโทษเกิดขึ้น 57%
ส่วนคนที่รอจังหวะ หลังสิ้นเสียงนกหวีดให้สัญญาณจากผู้ตัดสิน แม้แต่ 1 วินาทีขึ้น โอกาสสังหารสำเร็จจะพุ่งสูงถึง 80%
ทีมชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จเรื่องนี้แค่ 17% และถือว่า เป็นทีมชาติที่นักเตะวิ่งไปยิงเร็วที่สุด คือ กรณีศึกษาชั้นดี
7. อย่าหันหลังให้ประตู ก่อนวิ่งไปยิง
เป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรทำในการยิงจุดโทษ คือ การหันหลังให้ประตู ก่อนวิ่ง จะด้วยความอยากทำสมาธิ หรืออะไรก็ตาม
ResearchGate ชี้ว่า นั่นจะทำลายการเตรียมตัว จากการหันไปสนใจสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ หรือแสดงความประหม่าออกมา
8. ให้ฉลองทันที หลังจากที่ยิงเข้าไป
ระหว่างการดวลจุดโทษตัดสินผล การฉลอง ก็เป็นสิ่งสำคัญ จากการวิจัยที่ไปพบว่า มีผลในการ ‘แพร่ระบาดทางอารมณ์’
ข้อมูลมาจากการยิงจุดโทษ 151 ครั้ง ในฟุตบอลโลก, การแข่งขันฟุตบอลในยุโรป ของ Journal of Sports Sciences
โดยนอกจากเป็นการทำให้เพื่อนมั่นใจขึ้น ที่สำคัญ ก็ทำให้คู่แข่ง มีแนวโน้มจะพลาดได้ง่าย และมีโอกาสชนะสูงถึง 82%
9.(นายทวาร) ใส่ชุดแดง (ถ้าทำได้)
มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก เกี่ยวกับชุดแข่งขันของผู้รักษาประตูที่มีผลกระทบ ในเรื่องการยิงจุดโทษของฝ่ายตรงข้าม
เพราะผลชี้ว่า การยิงจุดโทษสำเร็จเกิดขึ้นกับผู้รักษาประตูชุดสีแดง 54% สีเหลือง 69% สีน้ำเงิน 72% , สีเขียว 75%
ดูจากศึกฟุตบอลยูโร 2016 ที่ชุดผู้รักษาประตูของทีมชาติอังกฤษ, สเปน หรือเบลเยี่ยม ต่างก็เป็นสีน้ำเงิน หรือสีเขียว
10. (นายทวาร) ยืนตรงให้สมดุลที่สุด
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบนกูเรียน และ ฮีบรู ที่อิสราเอล ซึ่งไปทำการศึกษาวิจัยจากลีกทั่วทั้งโลกแล้วพบว่า มีอยู่แค่ 2%
สำหรับผู้รักษาประตูที่ยืนในตำแหน่งตรงกลางจริงๆ ทั้งที่นั่นคือ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้รักษาประตูแล้วเท่าที่จะทำได้
เพื่อให้คนยิง มีโอกาสเลือกเป้าหมายได้หลากหลายบนกรอบประตู อันจะนำมาซึ่งความโลเล และยิงพลาดไปเองในที่สุด
ประมาณนี้ สำหรับเรื่องจิตวิทยาของการสังหารจุดโทษ ลองเอาไปปรับใช้ดู ส่วนที่เหลือ ก็ให้โชคชะตาได้ทำหน้าที่บ้าง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: https://timeout.siamsport.co.th/timeout/view/146803
ฟอรัมฟอเร็กซ์ประเทศไทย
